รีวิวกล้องจิ๋ว 4K พร้อมกันสั่น Dji Osmo Pocket มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง

loading
loading

Dji Osmo Pocket กล้อง 4K จิ๋ว พร้อมระบบกันสั่นขั้นเทพ สำหรับท่องเที่ยว และ Vlog อัดแน่นด้วยลูกเล่นจากโหมดการถ่ายภาพและวิดีโอ ใช้งานได้ง่ายแม้ถ่ายรูปไม่เก่งก็ตาม โดยทีเอสเอ็มจะพาเพื่อนไปทำความรู้จัก Osmo Pocket ให้มากยิ่งขึ้น พร้อมข้อดีและข้อเสียกัน

ทำไมถึงเลือกใช้ Dji Osmo Pocket 

  • พกพาสะดวก ด้วยขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ

  • ถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด 4K

  • ระบบกันสั่น 3 แกน ลดการสั่นไหว

  • โหมดถ่ายแบบอาชีพ ที่มือใหม่ก็ถ่ายได้

  • เหมาะสำหรับ Vlog, Youtuber, Selfie, ถ่ายคลิป, ท่องเที่ยว ฯลฯ

Dji Osmo Pocket เล็กแต่ทรงพลัง

ความเล็กเท่าฝ่ามือของ Osmo Pocket เป็นข้อดีที่ทำให้การหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยน้ำหนักเพียง 116 กรัม เบาและพกพาติดตัวไปได้ทุกๆที่ ส่วนในเรื่องคุณสมบัติต้องบอกว่าใหญ่เกินตัว จะเป็นยังไงไปชมกัน

  • ระบบกันสั่นแบบ 3 แกน (3-Axis Mechanical Stabilization) 

  • ถ่ายวีดีโอ 4K Ultra HD: 3840 x 2160 24/25/30/48/50/60p

  • ถ่ายวีดีโอ FHD: 1920 x 1080 24/25/30/48/50/60/120p

  • โหมด Motion Timelapse  

  • โหมดติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว (Active Track)

  • เซ็นเซอร์ 1/2.3 ค่ารูรับแสง F 2.0  มุมรับภาพกว้าง 80 องศา

  • แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 140 นาที

  • น้ำหนักเบาเพียง 116 กรัม

ด้วยขนาดที่เล็กจึงทำให้มีปุ่มควบคุมน้อย ซึ่งถ้าใช้ Dji Osmo Pocket เพียงลำพัง โดยไม่ใช้คู่กับสมาร์ทโฟน ก็ใช้งานได้ปกติเพียงแต่การควบคุมทั้งหมดจะอยู่ที่หน้าจอด้วยระบบสัมผัสจากไอคอนที่ทำความเข้าใจได้อย่างง่ายๆ 

เก็บได้แม้ในกระเป๋ากางเกง

ไม่ต้องหาเคสหรือกระเป๋าเก็บให้ยุ่งยาก เพราะภายในกล่อง Dji Osmo Pocket แถมเคสแบบ Cover สำหรับพกพาและเก็บกล้องได้อย่างเป็นระเบียบ หยิบขึ้นมาถ่ายได้ง่ายในไม่กี่วินาที ที่สำคัญไม่ต้องกลัวหล่นหรือหลุดมือ เพราะการออกแบบกริปให้กระชับมือ

ใส่กับ Cover กับกระเป๋ากางเกงยีนส์ เหมาะสำหรับการพกพาไปท่องเที่ยวและต้องการหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเป็นประจำ โดยหมดปัญหาในการเก็บหรือหยิบขึ้นมาใช้งานยากอีกต่อไป

ใช้งานง่าย แม้เป็นมือใหม่

สำหรับมือใหม่ที่เคยถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอจากสมาร์ทโฟน ไม่ต้องกังวงกับการมาใช้งาน Dji Osmo Pocket เพราะรูปแบบการใช้งานถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ระบบการกันสั่นจทำงานอัตโนมัติ จึงทำให้การเคลื่อนไหวขณะถ่ายวิดีโอดูนุ่มนวลและน่าดูมากยิ่งขึ้น 

ด้วยขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.3” เพียงพอกับการถ่ายวิดีโอในแบบ 4K และ Full-HD โดยภาพที่ได้ออกมามีความคมชัด และ ใกล้เคียงกันสมาร์ทโฟนในรุ่นสูงๆ เพียงแต่ Osmo Pocket มีข้อดีที่กันสั่น 3 แกนแบบของจริง ซึ่งจะแตกต่างกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบกันสั่นจากซอฟแวร์ หรือ AI

ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน

สำหรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนเป็นเพียงการเพิ่มลูกเล่นขึ้นมา โดยเลือกใช้งานได้ทั้ง ใช้งานเพียง Osmo Pocket เท่านั้น หรือ จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Dji Mimo ในควบคุมและอัพโหลดสู่โซเซียลได้ทันที โดยมีฟิลเตอร์เจ๋งให้เลือกใช้เพิ่มเติม

ในกล่องจะแถม Adapter สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนให้ โดยรองรับพอร์ต Lightning (ไอโฟน) และ USB-C เพียงเท่านั้น

การเชื่อมต่อระหว่าง Osmo Pocket กับ Iphone XS MAX สำหรับการถ่ายวิดีโอ ที่เห็นในภาพจอนี้ คือภาพที่จะได้กล้อง Osmo Pocket ที่ส่งภาพมาแสดงผลบน Iphone โดยควบคุมจากสมาร์ทโฟนแทน ในเรื่องการจับถือในขณะเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน สามารถถือได้มือเดียวอย่างสบายๆ

รูปทรง

Dji Osmo Pocket กล้องขนาดจิ๋ว ที่มาพร้อมกิมบอลระบบกันสั่นแบบ 3 แกน เพื่อช่วยให้ลดอาการสั่นไหวจากการถือถ่ายแบบปกติ ทำให้มีความนิ่งและนุ่มนวล เหมาะสำหรับสายท่องเที่ยว หรือ ถ่ายคลิป ที่มาพร้อมฟีเจอร์เด็ดๆให้ได้เลือกใช้งา

บริเวณด้านหน้าจะไม่มีปุ่มใดๆมีเพียงโลโก้ DJI และ พื้นผิวสัมผัสแบบด้านพื้นให้จับถือได้อย่างมั่นใจ 

เห็นกล้องจิ๋วๆแบบนี้ แต่ได้คุณภาพที่ได้ออกมาระดับโปร ด้วยขนาดเซ็นเซอร์  1/2.3” CMOS ช่วงเลนส์ 26mm และมีรูรับแสดง F2.0 สปีดชัตเตอร์แบบอิเล็กโทน 8s-1/8000s ปรับ ISO ได้ตั้งแต่ 100-3200

ขนาดหน้าจอ 1 นิ้ว แสดงสีสันคมชัด พร้อมการควบคุมด้วยทัชสกรีน และ ปุ่มสำหรับบันทึก และ ปุ่มเปิด/เปิด, ปุ่มสลับโหมดถ่าย

ในบริเวณด้านข้างจะเป็นช่องสำหรับใส่การ์ดหน่วยความจำในรูปแบบ MicroSD สำหรับการเก็บภาพและวิดีโอ รองรับได้ถึง 256 GB โดยแนะนำให้ใช้งานการ์ดในรูปแบบ Class 10 ขึ้นไป

Osmo Pocket ไม่มีหน่วยความจำในตัว ดังนั้นถ้าใช้งานจำเป็นต้องใช้ MicroSD เป็นหน่วยความจำสำหรับเก็บภาพและวิดีโอ  

ด้านใต้จะมีช่องสำหรับชาร์จด้วยพอร์ต USB-C (สายชาร์จแถมมาให้ในกล่อง) ในเรื่องแบตเตอรี่ไม่สามาถถอดหรือเปลี่ยนได้ โดยภายในมีแบตเตอรี่รูปแบบ LiPo ความจุ 875 mAh ใช้เวลาชาร์จไฟ 100% ประมาณ 73 นาที (10W) โดยถ่าย 1080p/30 fps  ได้สูงสุด 140 นาที

ภายในกล่อง Dji Osmo Pocket มีอะไรบ้าง

  • Osmo Pocket

  • Cover

  • Smartphone Adapter (Lightning)

  • Smartphone Adapter (USB-C)

  • Power Cable

  • ชุดสมุดคู่มือ

สำหรับสายอุปกรณ์ ทาง Dji ได้ออกอุปกรณ์เสริมมาให้เลือกใช้งาน ซึ่งบางอย่างก็จำเป็น ดังนั้นได้ซื้อเพิ่มอีกแน่นอน

  • Charging Case : เคสสำหรับเก็บตัวกล้อง และ ชาร์จแบตเตอรี่ในตัว 

  • Wireless Module : เชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi โดยไม่ต้องต่อผ่านพอร์ต

  • ไม้เซลฟี่ : ขยายได้ถึง 80 Cm พร้อมปุ่มควบคุมต่างๆบนด้ามมือจับครับ

  • แป้นหมุนมี Dial : ควบคุมทิศทางการ tilt และ pan ของกล้อง

  • Accessory Mount : เคสกล้องสำหรับการถ่ายในแนว sport หรือ Action ได้เลย

  • ชุดฟิลเตอร์ : กรองแสงสำหรับสภาพแสงต่างๆ 

  • อะแดปเตอร์ขนาด 3.5 mm : สำหรับใช้ไมโครโฟนภายนอกเพิ่มเติม

  • Waterproof Case : เคสกันน้ำ สำหรับนำลงไปถ่ายภาพใต้น้ำ โดยกันน้ำได้ลึกถึง 60 เมตร

โหมดถ่ายวิดีโอ

ในเรื่องการถ่ายวิดีโอ Dji Osmo Pocket รองรับการถ่ายแบบ 4K Ultra HD ในขนาด 3840×2160 ในเฟรมเรทสูงสุดถึง 60Fps จึงทำให้เก็บภาพความประทับใจได้สมูทและคมชัด เมื่อนำไปเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนจะทำให้เห็นภาพได้เต็มตา และ ควบคุมได้สะดวกขึ้น

ถือเป็นอีกข้อดีของความเล็กกระทัดรัด จึงทำให้ได้ภาพในมุมมองใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าเป็นมุมที่กล้องใหญ่ หรือ สมาร์ทโฟนเข้าถึงได้

ActiveTrack and FaceTrack

คุณสมบัติ ActiveTrack and FaceTrack ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดสำหรับคนชอบถ่าย เพราะกล้องจะล็อคตำแหน่งของใบหน้าและวัตถุ พร้อมติดตามในขณะเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะหันไปถ่ายไหนกล้องจะติดตามถ่ายใบหน้าไม่ให้หลุดออกจากเฟรม คุณสมบัตินี้ทำได้ง่ายๆเพียงใช้นิ้วลากใบหน้าหรือวัตถุผ่านหน้าจอ กล้องจะจดจำไว้ทันที

โหมดนี้เป็นการเก็บภาพความในแบบ Timelapse โดยย่นระยะเวลาจาก ปี เดือน วัน ชั่วโมง มาเหลือเพียงนาที แต่ที่เจ๋งไปกว่านั้นในโหมดนี้ สามารถเลือกตำแหน่งเริ่มต้น - จุดสิ้นสุดได้ พร้อมทั้งกำหนดช่วงเวลา

โหมด FPV กล้องจะเอียงตามการเคลื่อนไหวให้อย่างอัตโนมัติ เหมาะสำหรับการเดิน หรือ การเคลื่อนไหวแบบต่อเนื่อง

โหมดถ่ายภาพ

สำหรับคนชอบเซฟฟี่ภาพนิ่ง Dji Osmo Pocket ยังรองรับการภาพด้วยความละเอียดถึง 12M และ โหมด FaceTrack ที่จะช่วยทำให้การเซลฟี่คมชัดและสว่างยิ่งขึ้น ด้วยระบบโฟกัสใบหน้าอัตโนมัติ สำหรับไฟล์ที่ได้จะเป็น JPEG  และ JPEG + DNG (RAW)

ในโหมด Panorama จะทำให้ได้ภาพมุมมองกว้างขึ้น เก็บวิวสวยๆได้แบบจัดเต็ม จากการถ่ายภาพพาราโมนาต่อเนื่อง 9 ภาพ 9 มุม มาเรียงต่อกันโดยอัตโนมัติ ที่ใครๆก็ถ่ายได้

สายปาร์ตี้ต้องใช้โหมดนี้ กับ Long Exposure เพียงเข้าไปในโหมด Pro และปรับสปีดชัตเตอร์ 2-3 วินาที จะได้ภาพไฟสวยๆแบบนี้แล้ว

นอกจากนั้นยังมีโหมด Nightshot สำหรับการถ่ายในเวลากลางคืนและในที่แสงน้อย ที่ทำให้ได้ภาพไม่สั่นไหว โดยไม่จำเป็นต้องพึงพาขากล้องอีกต่อไป

สรุป ควรซื้อไหม ?

ถ้าคุณเป็นคนชอบท่องเที่ยว หรือ เห็นอะไรสวยๆแล้วต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย  Dji Osmo Pocket เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์การถ่ายที่ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน ด้วยขนาดเล็กจิ๋วพร้อมลูกเล่นแบบมือโปร ที่จะทำให้คุณได้เก็บช่วงเวลาสำคัญได้อย่างสวยงาม และ แบ่งปันคลิปเจ๋งๆสู่โลกโซเซียลให้เพื่อนๆได้เห็นช่วงเวลาประทับใจ ดังนั้นในงบประมาณหมื่นต้นๆ ถือว่าคุ้มค่ากับได้กล้อง 4K จิ๋วๆ พร้อมระบบกันสั่นขั้นเทพ

ข้อดี

  • ขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาสะดวก

  • ระบบกันสั่น Gimbal ใช้งานได้จริง

  • ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ถึง 60p

ข้อด้อย

  • การควบคุมเพิ่มเติมต้องใช้คู่กับสมาร์ทโฟน หรือ อุปกรณ์เสริม

  • Adapeter รองรับพอร์ต USB-C และ Lightning เพียงเท่านั้น

  • แบตเตอรี่เปลี่ยนสำรองไม่ได้ ต้องชาร์จจากกล้อง

fdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhakfdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhaddddk
download app
สแกนดาวน์โหลดApp