รีวิว Garmin Vivoactive 5 สมาร์ทวอทช์ AMOLED หน้าปัดกลม รุ่นประหยัด.. แต่จัดเต็ม
Garmin เปิดตัว Vivoactive 5 ด้วยราคา และฟีเจอร์เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ Venu 3 โดยได้เปลี่ยนการใช้หน้าจอรูปแบบ MIP มาเป็น Amoled ที่ให้ความคมชัดสูงตามยุคสมัย แล้วยังเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างทั้งภายใน และภายนอก ทำให้ Garmin Vivoactive 5 กลายสมาร์ทวอทช์อีกหนึ่งรุ่นที่เน้นความคุ้มค่า
ที่มีทั้งหมด 4 สี
-
สีม่วง (Metallic Orchid
-
สีดำ (Slate Aluminum)
-
สีครีม (Cream Gold Aluminum)
-
สีน้ำเงิน (Metallic Navy)
ดีไซน์
ยุคสมัยใหม่ของ Garmin กับสมาร์ทวอทช์ราคาหมื่นขึ้น งานประกอบ และวัสดุเนี๊ยบขึ้นกว่าเดิม
-
วัสดุกรอบตัวเรือนทำจาก Anodized Aluminum ให้ความคล้ายกับรุ่น Venu 3 แต่จะมีเนื้อที่ด้านกว่า
-
กระจกยังทำจาก Gorilla Glass ที่เป็นรอยยาก
-
สายเป็นสายซิลิโคนที่ทำความสะอาดง่าย แบบ Quick Release ขนาด 20 มม.
-
หน้าจอขนาด 1.2 นิ้ว แบบ Amoled ที่ทันสมัยขึ้น ความละเอียด 390x390px
-
ขนาดตัวเรือน 42.2 x 42.2 x 11.1 มม. และหนักเพียง 36 กรัม
-
โดยการกันน้ำให้มา 5 ATM เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตปะจำวัน สามารถใส่ว่ายน้ำได้แต่ไม่แนะนำให้ใส่ดำน้ำ
-
ให้หน่วยความจำมา 4 GB ที่รวบรวมทั้งข้อมูลสุขภาพและเพลงได้ถึง 500 เพลงภายในเครื่อง
-
ดีไซน์ที่หน้าปัดจะมีจุดที่ขอบวางแตกต่างจากรุ่นก่อนๆและมาพร้อมปุ่มด้านข้าง 2 ปุ่ม
การใช้งาน
การควมคุมด้วยปุ่มกดจะมีถึง 2 ปุ่ม (เมื่อเทียบกับ Venu 3 Series จะมี 3 ปุ่ม) โดยทั้ง 2 รุ่น การควมคุมส่วนใหญ่จะเน้นไปทางสัมผัสหน้าจอ ปุ่มกดจะไว้สำหรับกดยืนยัน หรือเข้าเมนูการตั้งค่านั้นเอง
-
ขวาบน : เช้าเมนูกีฬา กดค้างไว้เพื่อเข้าถึงเมนูคลัด
-
ขวาล่าง : กดย้อนกลับ กดค้างไว้สำหรับการตั้งค่า
-
และยังสามารถปัดไปทางขวาเพื่อไปที่เมนู 'ล่าสุด' เพื่อเรียกวิดเจ็ตที่ใช้งานล่าสุด โดยไม่จำเป็นต้องเลื่อนหาใหม่
แบตเตอรี่
ถึงแม้จะเปลี่ยนใช้งานหน้ารูปแบบ AMOLED ที่ให้ความสว่างสดใส แต่แบตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่จำเป็นต้องถอดมาชาร์จบ่อย ๆ
-
โหมดสมาร์ทวอทช์ : สูงสุด 11 วัน (แสดงเปิดตลอดเวลา 5 วัน)
-
โหมดสมาร์ทวอทช์ประหยัดพลังงาน : สูงสุด 21 วัน
-
โหมด GNSS แบบ GPS เท่านั้น : สูงสุด 21 ชั่วโมง
-
โหมด GNSS ทุกระบบ : สูงสุด 17 ชั่วโมง
-
โหมด GNSS ทุกระบบพร้อม เพลง : สูงสุด 8 ชั่วโมง
*ในโหมดประหยัดพลังงานจะปิกบางฟังก์ชันออกเพื่อลดการใช้พลังงาน
สิ่งใหม่
เป็นข้อดีที่ได้มาจากหน้าจอ AMOLED จึงทำให้ใช้งานไฟฉายบนหน้าจอ ปรับความสว่างสีขาวได้ 3 ระดับ และความสว่างสีแดง 1ระดับ ซึ่งจะแตกต่าง กับ Epix Pro หรือ Fenix 7 Pro ของ Garmin ที่มีไฟฉายในตัว แต่ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์เสริมสำหรับการใช้งานในมืด ๆ แบบฉุกเฉิน
เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอลซึ่งเป็น Elevate V4 สำหรับการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจเป็นประจำ รวมไปถึงการคำนวณความเครียด ระดับออกซิเจนในเลือด และการนอนหลับ (ซึ่งจะแตกต่างกับ Venu 3 Series ที่ใช้ Elevate V5 สำหรับเพิ่มความแม่นยำในการติดตามออกกำลังกาย)
Sleep Coach รวบรวมข้อมูล ตั้งแต่ อายุ ประวัติการนอนหลับ กิจกรรมระหว่างวัน ความแปรปวรของอัตราการเต้นของหัวใจ และการงีบหลับ เพื่อนำมาวิเคราะห์และแนะนำการนอนหลับที่เหมาะสม เหมาะกับการนอนหลับเกิน 9 ชั่วโมง หรือไม่ควรน้อยกว่า 7 ชั่วโมง
Nap Detection ติดตามการงีบหลังจากการตื่นนอน 1ชม. และหยุดการทำงานก่อนการนอน 1 ชม. และถ้าหากมีการงีบมากกว่า 1 ครั้ง นาฬิกจะแสดงระยะเวลาการงีบแต่ละรอบ และนำไปรวมเวลาการงีบ
Advance Body Battery เดิมที่จะแสดงเป็นเพียงกราฟระดับพลังงานในแต่ละช่วงเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้ถูกเติมเต็มโดยสามารถแจกแจงรายละเอียดการ "เพิ่ม/ลดลง" ของพลังงานในร่างกายตามกิจกรรมที่ทำ หรือที่ร่างกายได้พักฟื้น
โหมดกีฬา
กิจกรรมทั้งหมด ได้แก่ เดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ความแข็งแกร่ง, คาร์ดิโอ, การทำสมาธิ, จักรยานในร่ม, การหายใจ, ดิสก์กอล์ฟ, เครื่องเดินวงรี, eBike, การเล่นเกม, กอล์ฟ, ปั่นจักรยานมือ, ปั่นจักรยานมือในร่ม, HIIT, ลู่วิ่งในร่ม, น้ำเปิด, พาเดล, พิคเคิลบอล, พิลาทิส, ว่ายน้ำในสระ, แถว, แถวในร่ม, สกี, สโนว์บอร์ด, รองเท้าเดินหิมะ, สเต็ปเปอร์แบบขั้นบันได, SUP, เทนนิส, ลู่วิ่งไฟฟ้า, เดินในร่ม, สกี XC Classic, โยคะ (รองรับ 34 กิจกรรม) และเพิ่ม Wheelchair Mode รองรับการใช้งานสำหรับผู้พิการเมื่อกดเปิด หน้าต่างวิตเจ็ตและโหมดกีฬาจะถูกเปลี่ยนเป็นสำหรับผู้พิการทั้งหมด (รองรับ 28 กิจกรรม)
รองรับทั้งเซ็นเซอร์ ANT+ และ Bluetooth Smart (แต่จะไม่ได้รับเซ็นเซอร์วัดกำลังการปั่นจักรยานที่ Venu 3 มี) รองรับการเชื่อมต่อ หูฟังBluetooth, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ความเร็ว/จังหวะ, eBike, Foot Pod, Tempe (อุณหภูมิ), ไฟปั่นจักรยาน ANT+, เรดาร์จักรยาน (ANT+), เซ็นเซอร์ไม้กอล์ฟ สามารถบันทึกเซ็นเซอร์และเปลี่ยนชื่อได้ รวมถึงบันทึกเซ็นเซอร์ประเภทเดียวกันหลายอุปกรณ์ได้
สรุป
Garmin Vivoactive 5 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับสายสุขภาพ ที่มีกิจกรรมออกกำลังกายทั้งการวิ่ง ปั่น จักรยาน รวมไปฟิตเนส ถึงจะไปไม่สุดเท่ากับ Venu 3 ก็ตาม แต่ส่วนต่างถึง 5,000 บาท ก็สามารถแลกความคุ้มค่ากับรุ่นนี้ได้ สรุปถ้าต้องการอเนกประสงค์ Vivoactive 5 เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ต้องการความสุดต้องยกให้กับ Venu 3 Series