เครื่องนวดแบรนด์ Therabody หรือชื่อที่รู้จักกัน Theragun เปิดตัวซีรีย์โปรรุ่นใหม่นับรุ่นที่ 6 ซึ่งใช้ชื่อเรียกแตกต่างกับรุ่นที่ผ่านมาในอดีต โดยมีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Theragun PRO Plus อัพเกรดเทคโนโลยีใหม่เข้ามา เพื่อเป็นนำเทรนด์เครื่องนวดในตลาดโลก 

เปิดกล่อง

เปิดออกมาจะพบกับคำแนะนำการใช้งานเบื้องต้น พร้อมบอกหัวแต่ละชนิดเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบอะไรบ้าง (สำหรับหัวนวดเย็น รูปแบบ Cold Therapy จะไม่ได้แถมมาให้ในกล่อง ต้องซื้อแยก)

ต่อมาจะพบกับกระเป๋าพกพาสำหรับจัดเก็บเครื่องนวด และอุปกรณ์เสริม ซึ่งจะแบ่งออกเป็นซิป 2 ด้าน ฝั่งแรกเป็นซิปแบบเปิดกว้างสำหรับเก็บหัวนวด และสายชาร์จโดยเฉพาะ อีกฝั่งจะแยกออกมาสำหรับเก็บเครื่องนวด ดีไซน์ป้องกันการหล่น แต่สามารถหยิบออกมาได้ง่าย 

หัวนวด

สำหรับรุ่น Theragun PRO Plus จะแบ่งหัวนวดเป็น 2 ประเภทหลักๆ นั้นก็คือหัวนวดที่เชื่อมต่อกับเครื่องได้ หัวนวดร้อน, หัวนวดสั่น และหัวนวดเย็น และหัวปกติที่มีรูปทรงแตกต่างกันออกไป

โดยให้สังเกตสัญลักษณ์ และสีของหัวนวดทางเป็นสีส้ม, สีเขียว และสีน้ำเงิน ซึ่งจะเป็นหัวรุ่นใหม่ที่มีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเข้ามาใหม่ ส่วนหัวนวดสีเทาจะเป็นหัวนวดปกติ สำหรับวิธีการใส่เพียงดันเข้าไป และหมุนล็อคตามลูกศร

เปรียบเทียบระหว่าหัวนวดรุ่นใหม่ กับหัวนวดปกติ ถ้าสังเกตจะเพิ่มช่องสำหรับเชื่อมต่อการใช้งานเข้ามา เพื่อสื่อสารกับเครื่องนวดว่าให้รู้ว่าตอนนี้ได้ใช้หัวนวดพิเศษอยู่

ตัวอย่างเมื่อเราใส่หัวนวดร้อน (Heat therapy attachment) เครื่องนวดจะแสดงเมนูไอคอนรูปไฟขึ้นมา เพื่อรองการการปรับระดับความร้อน ซึ่งถ้าเราใช้หัวนวดประเภทอื่นจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ความร้อนได้

การใช้งาน

การจับถือของ Theragun ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกับแบรนด์อื่นๆ ที่สามารถจับได้ทั้ง 3 ด้าน ในรูปแบบ Triangle Handle เพื่อลดอาการเมื่อยล้าขณะใช้งาน หรือในมุมที่เข้าถึงยาก สำหรับรุ่น Pro Plus จะถอดฟีเจอร์ Rotating Arm การปรับองศาหัวนวดออกไป

รูปแบบหน้าจอ LCD สำหรับแสดงผลเท่านั้น (ไม่สามารถสัมผัสได้) หน้าจอสามารถแสดงแบตเตอรี่, นับเวลา และโหมดการใช้งานต่างๆ ส่วนเรื่องควบคุมต้องใช้ปุ่มกด ควมคุมปุ่มทิศทางการใช้เมนู และปุ่มตรงกลางสำหรับกดยืนยัน

ไฟสีแดง (LED light therapy) เป็นสิ่งที่เพิ่มเข้าใหม่สำหรับรุ่นนี้ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียน และฟื้นฟูได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเลือกเปิด/ปิด ได้ โดยไฟ LED จะไม่ส่งผลต่อความร้อน

และอีกฟีเจอร์ใหม่ ได้เพิ่มเซ็นเซอร์ไบโอเมตริกซ์ ในบริเวณด้านในของแท่นจับถือ สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งต้องเข้าโหมดเฉพาะ (แยกกับโหมดการนวด) สำหรับผ่อนคลาย หายใจเข้า/ออก ตามหน้าจอ ในขณะใช้งานจำเป็นต้องจับบริเวณเซ็นเซอร์ไว้ตลอด

คุณภาพ

งานประกอบของ Theragun PRO Plus การันตีถึงความเนี๊ยบ ผิวสัมผัสบริเวณด้านจับเป็นยางป้องกันลื่น จับได้อย่างมั่นใจ เมื่อได้ทดสอบใช้งานจริง ตัวเครื่องให้แรงกดหนักแน่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬา หรือคนที่กำลังตามหาเครื่องนวดประสิทธิภาพสูง ในรูปตัวอย่างได้ใส่หัวนวดรูปแบบสั่น (Vibration therapy attachment) ให้ความรู้สึกนุ่มนวล เหมาะกับบริเวณที่อ่อนโยน

สรุป

สำหรับ Theragun PRO Plus ค่อนข้างมีราคาสูง แต่ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพของการฟื้นฟูที่หาคู่แข่งได้ยาก เรียกได้ว่าเครื่องนวดที่ผสมผสานฟีเจอร์ต่างๆ มารวมไว้ในเครื่องนวด เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการบรรเทาการปวดเมื่อย หรือนักกีฬาที่จำเป็นต้องฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน