อุปกรณ์เสริม iPad รวมไว้ให้แล้ว ควรมีอะไรบ้าง ไว้ใช้คู่ไอแพด
อุปกรณ์เสริม iPad ถือเป็นคู่หูที่ควรต้องมีไว้ใช้คู่กับไอแพด และแน่นอนว่าโดยปกติแล้วเวลาที่ซื้อ iPad ก็จะมีอุปกรณ์เสริมมาให้อยู่แล้ว แต่ถ้าอยากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานบน iPad ให้ดียิ่งขึ้น จะต้องเลือกซื้ออุปกรณเสริมไอแพดเพิ่มเติมแล้วแหละ จะมีอะไรที่น่าใช้บ้าง ไปดูกันเลย
อุปกรณ์เสริมไอแพด คู่หูที่ดีที่สุดในการใช้งาน มีอะไรบ้าง
📍1. Apple Pencil
Apple Pencil ถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ ช่วยให้การขีด เขียน วาดภาพ บนไอแพดได้เป๊ะ! ไม่มีสะดุด เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบจด ชอบเขียน หรือชอบ วาดรูป ระบายสีสำหรับงานศิลปะ ที่นักเรียน นักศึกษา รวมถึงนักธุรกิจ ใช้งานได้ง่ายเหมือนจับปากกาหรือดินสอจริงๆ แต่ดีกว่าตรงที่สามารถแตะและควบคุมการสั่งงานผ่านการสัมผัสที่ตัวปากกาโดยตรง บอกเลยเริ่ดสุดๆ ซึ่งตอนนี้ทาง Apple ก็ออกแบบปากกาไอแพดมาด้วยกัน 4 รุ่น เราจึงต้องเช็คก่อนซื้อด้วยว่า iPad รุ่นที่เรามี ใช้งานคู่กับ Apple Pencil รุ่นไหนได้บ้าง มาเช็คกัน
Apple Pencil (รุ่นที่ 1) เป็นปากกาไอแพดรุ่นแรก ที่รองรับการทำงานทั่วไปได้เป็นอย่างดี นักเรียน นักศึกษา ควรมีมากๆ เพราะช่วยเรื่องการจดบันทึก จะเขียน จะลบ ทำได้ง่ายๆ เลย รุ่นนี้ชาร์จผ่านพอร์ต Lightning ถ้าหากใช้กับ iPad Gen 10 จะต้องมีอะแดปเตอร์ USB-C ที่เสียบต่อพอร์ตจึงจะสามารถชาร์จได้
รุ่นที่รองรับ
-
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2,1)
-
iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
-
iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
-
iPad Air (รุ่นที่ 3)
-
iPad (รุ่นที่ 10,9)
-
iPad mini (รุ่นที่ 5)
Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ปากกาไอแพดรุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อคนที่เน้นการใช้งานแบบหนักๆ มีความหน่วงในระดับต่ำ เหมาะกับวัยทำงานหรือนักศึกษา โดยเฉพาะด้านออกแบบ เขียนแบบ วาดรูปเน้นลายเส้น ปากการุ่นจะตอบโจทย์ด้านนี้ได้ดีทีเดียว สายอาร์ทคนไหนเล็งอยู่ต้องมีเลยนะ
รุ่นที่รองรับ
-
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 6,5,4,3)
-
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 4,3,2,1)
-
iPad Air (รุ่นที่ 5,4)
-
iPad mini (รุ่นที่ 6)
Apple Pencil (USB-C) ถือเป็นอุปกรณ์เสริมไอแพดรุ่นอัปเกรดที่ดีขึ้น สามารถชาร์จโดยการยึดติดกับแม่เหล็กข้างไอแพดได้ และสามารถชาร์จโดยการเชื่อมต่อพอร์ด USB-C แถมยังมีปุ่มสำหรับสลับเครื่องมือ เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
รุ่นที่รองรับ
-
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 6,5,4,3)
-
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 4,3,2,1)
-
iPad Air (รุ่นที่ 5,4)
-
iPad mini (รุ่นที่ 6)
-
iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M4)
-
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (ชิป M4)
-
iPad Air รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M2)
-
iPad Air รุ่น 11 นิ้ว (ชิป M2)
Apple Pencil Pro รุ่นใหม่ล่าสุด มีการอัปเกรดที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วยฟังก์ชันใหม่อย่างการบีบ เพื่อสั่งการ และการสั่นเพื่อตอบสนองต่อการสั่งการ สามารถวาด เขียน ขีด สเก็ตงานออกแบบได้แม่นยำยิ่งขึ้น สามารถจับคู่การชาร์จด้วยแม่เหล็กแปะติดข้าง iPad รุ่นนี้จะรองรับระบบ iPadOS 17.5 เป็นต้นไป
รุ่นที่รองรับ
-
iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M4)
-
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (ชิป M4)
-
iPad Air รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M2)
-
iPad Air รุ่น 11 นิ้ว (ชิป M2)
📍2. Apple Pencil Tips
Apple Pencil Tips คือหัวปากกาไอแพดสำหรับเปลี่ยน Apple Pencil เพื่อให้การเขียนลี่นไหลได้มากขึ้น เพราะเมื่อเรามีการใช้งานไปสักระยะหนึ่งหัวปากกาอาจจะขรุขระตามการใช้งานได้ ยิ่งคนเน้นวาดรูปในไอแพด หัวจะปากกาจะสึกง่าย ใช้ได้กับปากกาไอแพดทุกรุ่น และถามว่าจำเป็นที่ต้องเปลี่ยน อย่างที่บอกขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา อย่างน้อยๆ ใน 1 ปี ก็ควรจะเปลี่ยนสัก 1 ครั้ง เพื่อการขีดเขียนที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุด ถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริมอย่างนึงของ iPad ที่ควรต้องมีไว้ เผื่อฉุกเฉินน้าา
ส่วนใครที่ยังสงสัย อยากรู้ว่าทำไมต้องเปลี่ยนหัวปากกาไอแพด สามารถอ่านเพิ่มเติม คลิก
📍3. Magic Keyboard
อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริม iPad ที่เป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดีทีเดียว ที่สามารถเป็นได้มากกว่า iPad ขอแนะนำไอเทมเด็ด Apple Magic Keyboard for iPad ที่เปลี่ยนให้ iPad สามารถทำงานได้ไม่ต่างจาก MacBook เพียงเสริมด้วยการเพิ่ม Keyboard เข้าไป ฟังก์ชั่นการทำงานใช้ได้เหมือนกันกับ Keyboard ของ MacBook ที่สามารถทำงานให้คล่องมากขึ้น มืออาชีพสุด แถมยังทำหน้าที่เหมือนเคสไอแพด เพราะแข็งแรง ทนทาน บอกเลยคุ้มค่ากับราคาแน่นอน สำหรับ คีย์บอร์ด iPad นี้มีให้เลือกทั้งแบบภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แนะนำรุ่นที่สามารถใช้งานกับ iPad ได้ตามนี้เลย
- Magic Keyboard for iPad Pro 11-inch (M4) – Thai
สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (ชิป M4) ที่ใช้ iPadOS 17.4 หรือใหม่กว่า
- Magic Keyboard for iPad Pro 11-inch (4th Gen) and iPad Air (5th Gen) (English)
สามารถรองรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ iPad Air 5 ได้
📍4. AirPods
iPad ตอบโจทย์ด้านความบันเทิง สตรีมเกม สตรีมหนัง ซีรีย์ บนไอแพดได้ดีอยู่แล้ว แต่เพื่อเพิ่มอรรถรสด้านการรับฟัง เราจะขาดอุปกรณ์เสริมไอแพดนี้ไม่ได้เลยกับ AirPods ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad และ iPhone เท่านั้น สามารถสั่งการผ่าน AirPods ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ชาร์จ 1 ครั้งใช้ได้นานเกือบทั้งวัน มีฟังก์ชั่นที่ช่วยการฟังที่เป็นเลิศ เสียงเบสที่ทรงพลัง แอร์พอดมีดีไซน์ทันสมัย หมดปัญหาสายพันกัน เป็นไอเทมที่ต้องมี Apple ทำออกมาหลายรุ่นแล้ว แนะนำรุ่นยอดฮิตดังนี้เลย
Apple AirPods (2nd generation) ถือเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ที่ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง แม้จะออกมานานแล้วแต่ก็ยังคงเป็นรุ่นที่น่าใช้อยู่ ด้วยฟีเจอร์ที่ครบและดีไซน์สวย
AirPods (3rd generation) with MagSafe Charging Case ดีไซน์สั้นลงกว่ารุ่น 2 และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย ( MagSafe ) ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง และฟังได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมงเมื่อมีเคสชาร์จ MagSafe
Apple AirPods Pro (2nd generation) เป็นรุ่นที่ 2 ของรุ่น Pro ฟังได้นานสูงสุดถึง 6 ชั่วโมง แต่ฟังได้นานรวมสูงสุด 30 ชั่วโมงเมื่อมีเคสชาร์จ MagSafe รุ่น Pro จะต่างจากรุ่นอื่นตรงที่มีนวตกรรมตัดเสียงรบกวน เงียบขั้นสุด นอกจากจะเหมาะกับการฟังแล้วยังเหมาะกับการใส่ออกกำลังกายอีกด้วย
📍5. Adapter & Cable
ไอเทมนี้ขาดไม่ได้แน่ๆ อยู่แล้วนั่นก็คือ อะแดปเตอร์ Apple 20W USB-C Port Power Adapter และ สายชาร์จ Apple USB-C Charge Cable ถึงแม้ว่าเวลาซื้อ iPad จะมีอยู่ในกล่องมาให้แล้ว แต่มีเพิ่มอีกสำรองอีกสักอันเอาไว้ใช้ที่บ้านและมีพกติดกระเป๋าไว้อีกอันก็อุ่นใจกว่านะ
อะแดปเตอร์ 20W หัวกลม รองรับการชาร์จเร็ว มีขนาดกะทัดรัด เบา พกพาง่าย ใช้งานกับพอร์ตที่สามารถเชื่อมต่อ USB-C
สายชาร์จ Type-C to Type-C สายยาว 2 เมตร ที่ใช้กับหัวต่อ USB-C ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว สะดวกต่อการใช้งานสุดๆ แถมยังแข็งแรงทนทานอีกด้วย
📍6. Apple USB-C Digital AV Multiport Adapter
แน่นอนว่าหากเราใช้ iPhone, iPad และ Mac ยังต้องการขยายภาพหน้าต่อ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เรามีอะแดปเตอร์แบบมัลติพอร์ต จาก Apple ตัวนี้เลย Apple USB-C Digital AV Multiport Adapter โดยแค่ต่ออะแดปเตอร์เข้ากับช่องต่อ USB-C หรือ Thunderbolt 3 (USB-C) บน Mac, iPad หรือ iPhone เพื่อต่อเข้ากับทีวี ใช้เป็นสาย iPad ต่อ จอมินิเตอร์ เพื่อพรีเซ้นต์งานได้ หรือโปรเจ็กเตอร์ผ่านสาย HDMI หรือสามารถดึงข้อมูลจากแฟลชไดร์ฟ กล้อง ได้อย่างง่ายถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วสุดๆ
📍7. Case for iPad
เคส iPad ถือเป็นไอเทมเสริมที่ขาดไม่ได้เลย นอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับไอแพด ได้ตามสไตล์ของคนใช้แล้ว หน้าที่หลักของเคสคือปกป้องไอแพด จากการกระแทกตกหล่น รอยขีดข่วนที่หลังเครื่อง หรือบางรุ่นสามารถเก็บปากกาไอแพดได้อีกด้วย ถือว่าเพิ่มความสะดวกสบายต่อการพกพาได้ดีเลยที่เดียว
📍8. Film for iPad
นี่ก็คืออุปกรณ์เสริม iPad ที่บอกเลยว่าสำคัญสุดๆ สำหรับการใช้ iPad เราจะต้องรักษา ปกป้อง ดูแลหน้าจอไอแพดเป็นอย่างดี จะมีรอยไม่ได้น้าาา เพราะถ้าหน้าจอแตกทีก็เสียหลายบาทอยู่เหมือนกัน แถมยังเสียเวลาต้องเอาเครื่องเข้าศูนย์อีก ถึงแม้ว่าฟิล์มจะหาซื้อได้ทั่วไป แต่อย่าลืมคำนึงถึงคุณภาพ ต้องเลือกซื้อฟิล์มกันรอย ฟิล์มกันกระแทก ที่ให้คุณภาพได้ตรงตามฟิล์มที่เราเลือกให้ไอแพดของเราด้วยนะ
9. กระเป๋าใส่ไอแพด
กระเป๋าสะพาย ใส่โน๊ตบุ๊ค ใส่ไอแพดได้ จาก UNIQ ขนาด 14 นิ้ว ทำจากวัสดุรีไซเคิล พลาดสติก PET ช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย มีหลายสีให้เเหมาะกับทุกลุค ทุกสไตล์ในการแต่งตัว ตัวกระเป๋ามีความทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วน การกระแทกได้ดี เป็นผ้าแบบกันน้ำ ฝนตกก็ไม่ต้องกลัวไอแพดเปียก บอกเลบคุ้มสุดๆ
10. แฟลชไดร์ฟ SanDisk Ultra USB Type-C
มาถึงอุปกรณ์เสริม iPad อย่างสุดท้ายที่จะแนะนำกันแล้ว ขาดไม่ได้เลยสำหรับสายบัญชี กฎหมาย ตัดต่อ ที่ต้องเซฟไฟล์ใหญ่ๆ ข้อมูลเยอะๆ ไว้บนไอแพด ทำให้เมมเต็มเร็วสุดๆ นี่เลย แฟลชไดร์ฟ SanDisk Ultra USB Type-C ตัวช่วยสำหรับการเก็บข้อมูล ข้อมูลอะไรใหญ่ อะไรสำคัญๆ เก็บได้หมด มีให้เลือกหลายความจุ ตั้งแต่ 32GB – 256GB เลือกได้เลยตามความต้องการ