5 อันดับกล้อง rangefinder ที่น่าสนใจ
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างจากกล้อง DSLR แบบ prism หรือช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ของกล้อง mirrorless บางที rangefinder อาจเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพที่สร้างสรรค์ของคุณ
กล้อง rangefinder เป็นประสบการณ์การถ่ายภาพแบบวินเทจที่ไม่ซ้ำซากจำเจ ซึ่งเป็นวิธีการใช้โฟกัสแบบ manual ที่ใช้เลนส์หลายตัว แม้ว่าจะต้องใช้ความชำนาญในการเริ่มต้น และการทำความเข้าใจว่ามันมีการทำงานและการใช้งานอย่างไร แต่เมื่อคุณคุ้นเคยกับการใช้งานแล้วมันจะทำให้คุณใช้งานได้อย่างมีคุณภาพและเพลิดเพลินไปกับมันได้ง่ายๆ
1. Fujifilm X100V
คุณสมบัติเบื้องต้น
ชนิด: Compact
เซนเซอร์: APS-C
ความละเอียด: 26.1MP
เลนส์: 35 มม. f/2 (มีประสิทธิภาพ)
หน้าจอ: LCD ขนาด 3 นิ้วแบบ tilting 1,620k dots
ช่องมองภาพ: Optical + 3,690k-dot EVF
ความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: 20 / 11fps
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K
ระดับผู้ใช้: ผู้สนใจ
ข้อดี
+ ช่องมองภาพแบบ hybrid
+ คุณภาพของภาพที่ให้ความรู้สึกหรูหรา
ข้อเสีย
– ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ optical
– ราคาค่อนข้างสูง
X100 ดั้งเดิมของ Fujifilm เป็นกล้องที่กระตุ้นความสนใจของเหล่าช่างภาพให้หลงใหลไปกับกล้องสมัยใหม่สไตล์ retro ของ Fujifilm เนื่องจากตั้งแต่กล้องรุ่น Fujifilm X100V 5 รุ่นลงมา ก็ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการกล้อง rangefinder ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์อยู่ดี ด้วยเลนส์คงที่เทียบเท่าเลนส์ 35 มม. ที่ใช้งานง่าย ทำให้เป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบสำหรับช่างภาพแนวสตรีทหรือช่างภาพ portrait
ซึ่งมีคุณภาพการสร้างที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับกล้อง Fujifilm ทุกรุ่นในรุ่นขนาดเล็กที่พกพาได้ โดยมันมีเซนเซอร์ X-Trans 26.1MP แบบเดียวกับ X-T4 และช่องมองภาพแบบ hybrid แบบเดียวกับใน X-Pro 3 X100V เป็นขั้นสูง
2. Fujifilm X-Pro3
คุณสมบัติเบื้องต้น
ชนิด: Mirrorless
เซนเซอร์: APS-C
ความละเอียด: 26.1MP
เลนส์: Fujifilm X
หน้าจอ: หน้าจอสัมผัส ขนาด 3 นิ้วแบบ tilting 1,620k dots
ช่องมองภาพ: Hybrid OVF (95% cov, x0.52 mag) and OLED EVF (100% cov, x0.66 mag, 3.69m dots)
ความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: mechanical shutter 11fps, electronic 20fps และ 30fps พร้อมครอบตัด
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K UHD
ระดับผู้ใช้: ผู้สนใจ / มืออาชีพ
ข้อดี
+ การออกแบบสไตล์ retro ที่ยอดเยี่ยม
+ ช่องมองภาพแบบ hybrid ที่มีทั้งแบบ optical และ electronic
ข้อเสีย
– ราคาแพงและค่อนข้างเป็นกล้องที่เฉพาะทาง
Fujifilm X-Pro3 เป็นกล้อง rangefinder แบบคลาสสิกแต่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ที่ต้องการกล้อง retro ที่มีคุณสมบัติทันสมัย ซึ่งกล้อง X-Pro 3 ประกอบด้วยเซนเซอร์ X-Trans 26.1MP ล่าสุด โฟกัสอัตโนมัติที่ได้รับการปรับปรุง และการออกแบบหน้าจอที่เป็นเอกลักษณ์
และช่องมองภาพแบบ hybrid ทั้งแบบ optical และ electronic ทำให้โดดเด่นกว่ากล้อง Fujifilm อื่นๆ เนื่องจากมีโหมด electronic เต็มรูปแบบ, โหมด optical พร้อมการซ้อนทับ electronic และโหมด digital rangefinder และยังมีออกมาให้เลือกถึง 3 สี คือ black, Dura black, และ Dura silver ซึ่งรุ่น Dura มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชุบแข็งพื้นผิวที่เรียกว่า Duratec ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อให้มีความทนทานต่อการขีดข่วน ดังนั้นจึงทำให้มันดูใหม่ได้นานขึ้น
3. Leica M11
คุณสมบัติเบื้องต้น
ชนิด: Rangefinder
เซนเซอร์: Full frame
ความละเอียด: 18MP, 36MP or 60MP
เลนส์: Leica M
โฟกัสอัตโนมัติ: None, manual focusing via rangefinder or Live View
หน้าจอ: หน้าจอสัมผัส ขนาด 3 นิ้วแบบคงที่ 2,332,800 dots
ช่องมองภาพ: ช่องมองภาพ optical Direct Vision และช่องมองภาพ Visoflex 2 electronic ที่เป็นอุปกรณ์เสริม
ความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: 4.5fps
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: ไม่มี
ระดับผู้ใช้: ผู้สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ เซนเซอร์ triple-resolution ที่อเนกประสงค์
+ ตัวเลือกชัตเตอร์ electronic แบบใหม่
+ หน่วยความจำภายใน 64GB
ข้อเสีย
– ไม่สามารถบันทึกวิดีโอได้
Leica M11 เป็นหนึ่งในกล้อง rangefinder ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากมีการเพิ่มการปรับแต่งและคุณสมบัติอันชาญฉลาดมากมาย โดยเซนเซอร์ full frame triple-resolution คือการให้ความละเอียดถึง 3x ซึ่งเป็นสิ่งที่โดดเด่นอย่างมาก และให้คุณถ่ายภาพที่ 60MP, 36MP หรือ 18MP ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้ความกว้างเต็มที่ของเซนเซอร์ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก
4. Leica M10 Monochrom
คุณสมบัติเบื้องต้น
ชนิด: Rangefinder
เซนเซอร์: Full frame
ความละเอียด: 24MP (ประสิทธิภาพ)
เลนส์: Leica M
โฟกัสอัตโนมัติ: None, manual focusing via rangefinder or Live View
หน้าจอ: หน้าจอสัมผัส ขนาด 3 นิ้วแบบคงที่ 921,600 dots
ช่องมองภาพ: Direct Vision
ความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: 3.5fps
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: Full HD
ระดับผู้ใช้: ผู้สนใจ
ข้อดี
+ คุณภาพโครงสร้างกล้องมีความทนทาน
+ หน้าจอใหม่และ live view ใน rangefinder
ข้อเสีย
– บันทึกเป็นขาว/ดำได้เท่านั้น
– ช่วงไดนามิคที่จำกัด
กล้องนี้เป็นกล้องที่น่าสนใจอย่างมาก นี่ไม่ใช่ Leica M Monochrom รุ่นก่อน ที่มี 24MP แต่เป็นรุ่นใหม่ที่มี 40MP ซึ่ง Leica อธิบายว่าเป็นเซนเซอร์ขาวดำที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ใช่ คุณอ่านถูกแล้วละ มันคือกล้องดิจิทัลที่ถ่ายภาพเฉพาะขาวดำเท่านั้น
แต่มันไม่ได้ใช้งานยากอย่างที่คิด เพราะเพียงคุณเอาชุดฟิลเตอร์สีที่ใช้กันทั่วไปหน้าเซนเซอร์ดิจิตอลออก คุณก็จะได้กล้องที่บันทึกขาวดำด้วยคุณภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่คือเหตุผลที่ Leica ขาวดำอยู่ในอันดับต้น ๆ
5. Mamiya 7 II
คุณสมบัติเบื้องต้น
ชนิด: Rangefinder
รูปแบบฟิล์ม: 120 / 220
ปีที่เปิดตัว: 1995
ช่องมองภาพ: Direct vision rangefinder
โหมด: Manual, Aperture priority
ระดับผู้ใช้: ผู้สนใจ
ข้อดี
+ คุณภาพโครงสร้างที่ยอดเยี่ยม
+ 6×7 negatives
+ โหมด Aperture priority
+ มีเลนส์ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างสูง
Mamiya 7 II และ Mamiya 7 รุ่นเก่าที่เกือบจะเหมือนกันทั้งหมดเนื่องจากเป็นกล้องฟิล์ม rangefinder ที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดมือสอง ซึ่งมันโดดเด่นด้วยกระจกที่คมชัดอย่างน่าทึ่งและคุณภาพโครงสร้างที่ยอดเยี่ยม และการผลิตฟิล์ม 6×7 negatives ที่ยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ที่หลงใหลการถ่ายกล้องฟิล์มที่ต้องการใช้งานระบบ rangefinder แต่มันก็มีข้อที่ควรพิจารณาอยู่เช่นกัน เนื่องจากมันมีราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร