รีวิวกล้อง Fujifilm instax mini LiPlay
กล้องรุ่นนี้มีให้เลือก 3 สี คือ Blush Gold, Elegant Black และ Stone White เนื่องจากกล้อง mini LiPlay สร้างขึ้นจากความสำเร็จของกลุ่มผลิตภัณฑ์ instax ที่เป็นที่นิยมของ Fujifilm สิ่งพิเศษคือกล้องตัวนี้มีเครื่องพิมพ์ในตัว ซึ่งคุณสามารถถ่ายภาพและพิมพ์เสร็จแล้วในมือของคุณประมาณ 10 วินาทีต่อมา แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ทีเดียว เพราะคุณต้องรอสารเคมีในภาพทำงานก่อน และหลังจากนั้น 2-3 นาที คุณจึงจะได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ
กล้องรุ่นนี้เป็นกล้องแบบ all in one ของกล้อง Fujifilm instax ที่รวมกล้องเข้ากับเครื่องพิมพ์พกพาแบบทันที ที่ใช้กระบวนการทางเคมีเพื่อ ‘พัฒนา’ การพิมพ์ในรูปแบบ analog สมัยเก่าในทางที่ดีขึ้น แต่สิ่งที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ การเพิ่มเซนเซอร์ภาพดิจิทัลเข้าไปอยู่ที่ด้านหลังเลนส์ ทำให้คุณสามารถจัดองค์ประกอบภาพและตรวจทานภาพถ่ายของคุณก่อนที่จะสั่งพิมพ์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มไมโครโฟน ทำให้คุณสามารถบันทึกเสียงไม่กี่วินาทีและเพิ่มลงในรูปภาพของคุณได้อย่างสนุกสนาน
คุณสมบัติเบื้องต้น
ประเภทการพิมพ์: Fujifilm instax mini instant film
ความละเอียดกล้อง: 5MP
ขนาดพิมพ์: 86×54 มม. (ภาพ 62×46 มม.)
ความละเอียดสูงสุด: 318dpi
แหล่งพลังงาน: แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ภายใน
หน้าจอแสดงผล : 2.7 นิ้ว
Interfaces: Bluetooth, microSD
ขนาด: 83x123x37mm
น้ำหนัก: 255g (ไม่รวมแพ็คฟิล์ม)
ข้อดี
+ มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
+ เป็นทั้งกล้องและเครื่องพิมพ์ในตัวเดียวกัน
+ สามารถบันทึกเสียงใส่ในภาพถ่ายได้
ข้อเสีย
– เป็นกล้องที่มีความละเอียดเพียง 5MP ซึ่งค่อนข้างธรรมดา
– ขนาดภาพพิมพ์ค่อนข้างเล็ก
– คุณภาพการพิมพ์ไม่ดีเท่ากับ dye-sub
คุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างแรก คือกล้องนี้เป็นกล้องดิจิทัลที่ใช้เลนส์ 28 มม. f/2 (เทียบเท่า full frame) พร้อมระยะโฟกัสอัตโนมัติ 10 ซม. ถึงระยะที่ไม่จำกัด และมีเซนเซอร์รับภาพ CMOS ขนาด 1/5 นิ้ว 5 ล้านพิกเซลที่ให้ภาพดิจิตอลขนาด 2590×1920 พร้อมช่วงความเร็วชัตเตอร์ 1/4 ถึง 1/8000 วินาที ช่วงความไวแสง ISO 100-1600 และแฟลชในตัวขนาดเล็ก รวมไปถึงความสามารถในการจัดเก็บภาพถ่ายในหน่วยความจำภายในของกล้องได้สูงสุด 45 ภาพ และช่องสำหรับเพิ่มการ์ด microSD อีกด้วย
ตัวกล้อง
กล้องมีเครื่องพิมพ์ในตัวใช้ Fujifilm Instant Film instax mini ที่ผ่านการทดสอบและเชื่อถือได้ ซึ่งใช้ปฏิกิริยาเคมีแทนเทคโนโลยี dye-sublimation หรือ inkjet มาพร้อม ‘ฟิล์ม’ มาในแพ็คละ 10 แผ่น โดยมีขนาดการพิมพ์ 86×54 มม. โดยที่ภาพจริงครอบคลุมพื้นที่ขนาดเล็กกว่า 62×46 มม.
ในส่วนของด้านหลังมีหน้าจอ LCD สีขนาด 2.7 นิ้ว ใช้สำหรับการจัดองค์ประกอบภาพเมื่อถ่ายภาพ (ไม่มีช่องมองภาพ) และใช้สำหรับการเลือกภาพที่จะพิมพ์ และเมนูเป็นการควบคุมด้วยปุ่ม และแป้น 4 ทิศ ซึ่งเป็นปุ่มที่ช่วยสำหรับการปรับแต่งภาพเบื้องต้นและเพิ่มกรอบและฟิลเตอร์ต่างๆ โดยการพิมพ์ใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการพิมพ์ออกมา ตามด้วยเวลาในการพัฒนาของสารเคมีประมาณ 2-3 นาทีก็จะได้ภาพที่สมบูรณ์ฉะนั้นหนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดใจคือการที่คุณจะได้ชมงานพิมพ์ของคุณมีชีวิตขึ้นมาจากกระดาษเปล่าบนฝ่ามือของคุณ
ตัวเครื่องยังมีแบตเตอรี่ภายในแบบคงที่ซึ่งมีพลังงานเพียงพอสำหรับการพิมพ์สูงสุด 100 ครั้ง หลังจากนั้นการชาร์จใหม่จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงผ่านพอร์ต USB Micro-B ซึ่งพอร์ต USB มีไว้สำหรับชาร์จไฟเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นใด
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของ ‘play’ คือคุณสามารถบันทึกเสียง 2-3 วินาทีลงในภาพของคุณและเพิ่มรหัส QR ลงในงานพิมพ์ได้ ทำให้คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนรหัส เพื่อเปิดดูที่มีมิติใหม่ในการดูภาพถ่ายของคุณให้มีความสนุกและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น
นอกจากจะเป็นเครื่องพิมพ์ที่มีกล้องในตัวแล้ว Instax mini LiPlay ยังสามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนของคุณผ่าน Bluetooth ฉะนั้นคุณจึงสามารถเลือกพิมพ์ภาพถ่ายต่างๆ จากโทรศัพท์ของคุณได้โดยผ่านแอปรวมกัน ซึ่งแอปนี้ยังสามารถช่วยให้คุณใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมตคอนโทรลได้ ซึ่งง่ายกว่าการใช้ “กระจกเซลฟี่” เล็กๆ ที่แผงด้านหน้าของกล้อง
คุณภาพ
เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ากล้องนี้ค่อนข้างธรรมดา เนื่องจากกล้องมีโฟกัสอัตโนมัติทำงานช้าและมีจุดโฟกัสอัตโนมัติเพียงจุดเดียวที่กึ่งกลางของเฟรมภาพ ซึ่งไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการซูมและ และด้วยความละเอียด 5MP นี้ทำให้กล้องมีความละเอียดค่อนข้างต่ำ ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าเหมาะสมสำหรับขนาดการพิมพ์
คุณภาพการพิมพ์ของกล้องมีเสน่ห์ตามแบบฉบับของ instax ที่ทำให้ภาพดูโดดเด่นและน่าสนใจ ในทางเทคนิคแล้ว ความแม่นยำของสีและช่วงโทนสีไม่ตรงกับเครื่องพิมพ์ Dye-sub ขนาดเล็กที่เหมาะสม เช่น Canon SELPHY SQUARE QX10 (เปิดในแท็บใหม่) หรือ Polaroid Hi·Print 2×3 ที่เป็นเครื่องพิมพ์ภาพพกพา โดยปกติแล้ว คุณต้องถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นเมื่อใช้เครื่องพิมพ์ Canon และโพลารอยด์เหล่านี้ ดังนั้น instax mini LiPlay จึงชนะขาดสำหรับความสามารถรอบด้านแบบ all-in-one
สรุป
โดยรวมแล้วแน่นอนว่าเป็นเรื่องง่ายที่จะจริงจังกับการถ่ายภาพทั้งอุปกรณ์และเทคนิค แต่บางครั้งเราก็ต้องการที่จะมีความสนุกและเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพได้ง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่ามีอะไรมากมายให้คุณเลือกกล้อง instax mini LiPlay เนื่องจากเป็นการสานต่อประเพณีเก่าแก่หลายทศวรรษของการถ่ายภาพทันใจ หรือ instant อย่างแท้จริง ซึ่งคุณสามารถถ่ายภาพและแชร์รูปภาพได้ทุกที่และทุกเวลาที่คุณต้องการ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจับภาพและเก็บรักษาความทรงจำอันมีค่าได้ทันที