รีวิวกล้อง Ricoh GR III

Ricoh GR III เป็นกล้อง compact แบบ APS-C 29MP พร้อมเลนส์ F2.8 เทียบเท่า 28 มม. ซึ่งกล้อง GR III เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ ‘GR’ compact APS-C จาก Ricoh GR III ที่มีมานานแล้ว แต่อัปเดต GR II ด้วยวิธีการที่สำคัญอย่างยิ่ง และตัวแทนของ Ricoh หลายคนอธิบาย GR III ให้เราฟังว่าเป็น ‘labor of love’ มีความหมายว่า แรงงานแห่งความรัก

กล้องรุ่น GR III นี้ เป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับ GR และ GR II ก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีความละเอียดเพิ่มขึ้นจาก 16-24MP (และเกินกำหนด) แต่การเพิ่มระบบป้องกันภาพสั่นไหวของเซนเซอร์, หน้าจอไวต่อการสัมผัส และการถอดแฟลชในตัวกล้องออกทำให้ GR III เป็นเครื่องมือถ่ายภาพที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าแฟน ๆ GR / II จะรู้สึกคุ้นเคยในทันทีก็ตาม 

**คุณสมบัติที่สำคัญ
**

+ เซนเซอร์ 24MP APS-C

+ เลนส์ F2.8 18.3มม. (เทียบเท่า 28มม.)

+ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ SR ในตัว 3 แกน

+ โฟกัสอัตโนมัติแบบตรวจจับ phase บนเซนเซอร์

+ การทำความสะอาดเซนเซอร์แบบ Ultrasonic

+ หน้าจอ LCD ไวต่อการสัมผัสขนาด 3 นิ้ว 1.04 M-dot

+ การจำลองตัวกรอง Anti-aliasing

+ เลนส์ wide adapter GW-4 เทียบเท่า 21 มม.

+ วิดีโอ 1080/60p

+ สามารถชาร์จได้โดยผ่าน USB 3.0 (Type C)

ข้อดี

+ คุณภาพของภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม

+ พื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 2GB

+ เลนส์คมอย่างดีเยี่ยม

+ โฟกัสอัตโนมัติค่อนข้างรวดเร็ว

+ กะทัดรัดและน้ำหนักเบา

+ หน้าจอไวต่อการสัมผัส

+ โฟกัสในการถ่ายนั้นยอดเยี่ยม

ข้อเสีย

– อายุใช้งานแบตเตอรี่ไม่น่าประทับใจนัก

– ปัญญาเครื่องร้อน

– หน้าจอที่มันทำให้มองเห็นได้ยาก

– ไม่มีการป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ

– ไม่มีแฟลชในตัวกล้อง

ลักษณะตัวกล้อง

รูปร่างของกล้องนี้มีขนาดเล็กในเชิงบวก เนื่องจากกล้อง GR III มีน้ำหนักเพียง 257 กรัม และทำให้สามารถจับถือได้อย่างพอดีมือ โดยปกติส่วนใหญ่แล้วกล้อง compact ก็สามารถจับถือได้อย่างสะดวกดีแม้จะมี grip ที่เล็กก็ตาม

การจัดวางปุ่มก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และการควบคุมทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของคุณ ถึงแม้คุณจะมีมือที่ใหญ่ แต่รับรองได้ว่าคุณจะสามารถบังคับใช้งานมันได้ด้วยมือข้างเดียวอย่างแน่นอน โดยรวมแล้ว Ricoh ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยรูปแบบการควบคุมและทำให้กล้องตัวนี้มีความสมดุล ฉะนั้นกล้อง Ricoh GR III ได้มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ยุ่งยากแน่นอนหากมองจากลักษณะตัวกล้อง

คุณภาพของโครงสร้างกล้อง

โดยรวมแล้วเราค่อนข้างประทับใจกับคุณภาพการสร้างของกล้อง Ricoh GR III เนื่องจากตัวกล้องผลิตจาก magnesium alloy และวัสดุตัวกล้องมีพื้นผิวบนด้ามจับนั้นน่าสัมผัส ในขณะที่ปุ่มกดเป็นพลาสติกก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าไม่แพง

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายที่สุดสำหรับเราคือกล้องนี้ไม่ได้รับการป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ เนื่องจากมันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เขาปล่อยกล้องสำหรับการถ่ายภาพแนวสตรีทแต่ไม่มีการป้องกันที่สำคัญนี้ ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเป็นข้อพิจารณาสำหรับใครหลายๆ คนเช่นกัน นอกเหนือจากปัญหานี้แล้ว กล้อง Ricoh GR III ก็เป็นกล้องที่สร้างขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม

ความร้อนสูง

ในช่วงที่เราใช้งานกล้อง Ricoh GR III พบว่ากล้องมีความร้อนสูงเกินไป โดยอุณหภูมิอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส ความชื้นประมาณ 50% หลังจากนั้นตัวกล้องก็หยุดทำงาน และเริ่มใช้งานได้หลังจาก 25 นาทีถัดมา และก็ดับอีกครั้ง เราจึงต้องรอให้กล้องเย็นลงชั่วขณะและจึงสามารถใช้งานอีกครั้งได้ และหลังจากนั้น 5 นาที คำเตือนความร้อนก็ปรากฏขึ้นและปิดลงอีกครั้ง และนี้คือความร้อนสูงที่พบจากการถ่ายภาพเท่านั้น โดยไม่ได้บันทึกวิดีโอ

โดยทั่วไปแล้ว GR III ค่อนข้างจะมีความร้อนเป็นปกติอยู่แล้ว โดยคุณจะเริ่มรู้สึกอุ่นๆ ที่บริเวณที่วางนิ้วโป้ง แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งานของเราก็เป็นได้ หรืออาจเป็นไปได้ว่า Ricoh จำเป็นต้องปรับปรุงปัญหาเกี่ยวกับการระบายความร้อนบางอย่างเพื่อให้สามารถทำงานได้กระจายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

คุณภาพของภาพถ่าย

เลนส์เทียบเท่า 28 มม. ของ GR III มีความคมชัดจนน่าทึ่ง และสามารถแสดงโบเก้ที่สวยงามได้ในบางครั้ง โดยความผิดเพี้ยนของสีถูกรักษาให้น้อยที่สุด และมีขอบมืดเล็กน้อยเมื่อถ่ายภาพแบบเปิดกว้างที่ f/2.8 อย่างไรก็ตามเราพบว่าคุณลักษณะนี้ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น

มีการควบคุมแสงแฟลร์และแสงโกสต์อย่างดี และมีการสูญเสีย contrast เล็กน้อยเมื่อถ่ายภาพที่มีแสงจ้า แต่หากคุณถ่ายภาพในไฟล์ที่แตกต่างกันก็สามารถทำให้มีข้อแตกต่างได้เช่นกัน

เมื่อคุณถ่ายในระบบ ไฟล์ RAW (DNG) นั้นสมบูรณ์แบบ แม้มันอาจจะไม่ได้ให้ความยืดหยุ่นกับคุณมากนัก แต่คุณก็สามารถปรับหรือลดพวกมันไปมามากพอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีได้ และในส่วนของไฮไลท์ก็ฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้คุณยังสามารถดึงรายละเอียดจากเงาได้ ทำให้โดยรวมแล้วช่วงไดนามิกนั้นมากเกินไป

และเมื่อคุณถ่ายใน JPEG โปรไฟล์สีทั้งหมดนั้นยอดเยี่ยมมาก แม้สีจะเพี้ยนนิดหน่อยแต่เป็นธรรมชาติ แต่มีโทนสีผิวดูดี และสีไม่เปลี่ยนไปด้านอุ่นหรือเย็นเลย ภาพที่ได้แทบไม่มีการบิดเบือนไปจากภาพจริงเลย นอกจากนี้ JPEG ขาวดำเป็นไฟล์ที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมาเลยทีเดียว ดังนั้นนี้จึงเป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบและเหมาะสมมากสำหรับผู้ที่ต้องการตัดต่อภาพ