รีวิว Panasonic Lumix DC-GH6

loading
loading

Panasonic Lumix DC-GH6 เป็นกล้อง Micro Four Thirds ระดับ high-end รุ่นล่าสุดที่มุ่งเป้าไปที่ช่างถ่ายวิดีโอ ซึ่งกล้อง GH6 สามารถถ่ายวิดีโอโหมด 4K-focused ได้หลากหลาย รวมถึง slow-motionจากการจับภาพ 120 fps, เซนเซอร์เต็มรูปแบบ open gate/การถ่ายแบบ anamorphic และจับภาพในรูปแบบมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ProRes 422 และ 422 HQ

กล้อง GH6 สร้างขึ้นรอบ ๆ เซนเซอร์ที่มีการอ่านค่าอัตราขยายสูงและต่ำแบบขนานเพื่อส่งมอบโหมด ‘Dynamic Range Boost’ ที่ Panasonic กล่าวว่าให้ช่วงไดนามิกมากกว่า 13 สต็อปที่การตั้งค่า ISO ที่สูงขึ้น กลายเป็นกล้อง GH ตัวแรกที่ใช้โปรไฟล์ VariCam V-Log เต็มรูปแบบ

คุณสมบัติที่สำคัญ

คุณสมบัติที่สำคัญ

+ เซนเซอร์ CMOS 25MP พร้อมการอ่านข้อมูลแบบขนาน

+ พัดลมในตัวสำหรับการบันทึกที่ไม่จำกัด

+ UHD หรือ DCI 4K แบบ 10 bit 4:2:2 ที่สูงสุด 60p

+ Slow-motion UHD หรือ DCI 4K แบบ 10 bit 4:2:0 ที่สูงสุด 120 fps

+ จับภาพเต็มความกว้าง 5.7K ที่สูงสุด 60p

+ 5.8K เซนเซอร์เต็มรูปแบบ ‘open gate’/การจับภาพแบบ anamorphic สูงสุดที่ 30p

+ การถ่ายภาพ V-Log/V-Gamut เต็มรูปแบบ

+ รูปแบบการจับภาพที่หลากหลายรวมถึง ProRes 422 และ 422 HQ

+ CFexpress Type B 1 ช่อง และ UHS-II SD slot 1 ช่อง

+ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอยู่ที่ 7.5EV คงไว้ซึ่งทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้นด้วยเลนส์ Dual IS 2

+ หน้าจอแบบ Tilt และ articulating จาก S1H

+ ช่องเสียบ HDMI Type A ขนาดเต็ม

+ ถ่ายภาพ 14 fps ด้วย AF-S, 8 fps ด้วย AF-C (75 fps ด้วย e-shutter)

ข้อดี

+ สามารถบันทึกได้ที่ 5.7K60 และ 4K120

+ รองรับ ProRes 422 HQ ภายใน

+ ภาพนิ่ง 25MP พร้อมตัวเลือก multi-shot 100MP

+ โครงสร้างกล้องจาก Magnesium พร้อมการป้องกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น

+ การจดจำวัตถุสำหรับคนและสัตว์

+ จอแสดงผลที่ออกแบบอย่างชาญฉลาด

+ การระบายความร้อนแบบ active สำหรับการบันทึกแบบยาว

ข้อเสีย

– จุดรบกวนมากเกินไปหากคุณเน้นรายละเอียดของเงาสำหรับภาพนิ่งแบบ Raw

– ต้องใช้การ์ด CFexpress ราคาแพงสำหรับวิดีโอคุณภาพสูงสุด

– โฟกัสอัตโนมัติ DFD Contrast ไม่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ action

**การควบคุมและการจัดการ
**

ตัวเครื่อง GH6 เต็มไปด้วยปุ่มและแป้นหมุนซึ่งเสริมหน้าจอสัมผัส โดยบนด้านหน้าของกล้องจะมีปุ่มฟังก์ชัน 2 ปุ่มในช่องว่างระหว่าง lens mount และ grip และมีปุ่มบันทึกอยู่ที่มุมล่างซ้าย ฉะนั้นจะง่ายสำหรับการกดเริ่มและหยุดการถ่ายคลิปจาก vlogger หรือผู้ไข้งานอื่นๆ ที่แสดงอยู่หน้ากล้อง

การควบคุมและการจัดการ

ส่วนด้านบนของตัวกล้อง มีปุ่มหมุน 1 คู่ อันหนึ่งสำหรับสลับโหมดการรับแสง และอีกอันสำหรับสลับระหว่างการถ่ายภาพเดี่ยว, ถ่ายต่อเนื่อง, multi-shot และการตั้งเวลาถ่ายภาพ โดยสายกดชัตเตอร์จะอยู่ที่ด้านหน้าของด้ามจับ และปุ่มบันทึกที่สองสำหรับวิดีโอจะอยู่ด้านหลังเล็กน้อย และยังมีปุ่มสำหรับตั้งระดับเสียง, EV, ISO และ White Balance จะอยู่ด้านบนพร้อมกับปุ่มหมุนควบคุมเพื่อตั้งค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์

ส่วนควบคุมด้านหลังส่วนใหญ่จะอยู่ด้านขวา แต่ในส่วนของด้านบนซ้ายจะเป็นปุ่มใช้งานหรือสลับสวิตช์ล็อก เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนทางด้านขวาจะมีปุ่มควบคุมโฟกัสสามปุ่ม, ปุ่มเลือกพื้นที่โฟกัสแบบผสมและสวิตช์สลับโหมดโฟกัส MF/AF-C/AF-S ปุ่ม AF-ON และแป้นทิศทางแปดทิศทางสำหรับเลื่อนจุดโฟกัสไปรอบๆ กรอบ

ปุ่ม Menu/Set อยู่ด้านล่างเล็กน้อย อยู่ที่กึ่งกลางของแป้นหมุนด้านหลังแบบเรียบ ซึ่งทำหน้าที่จัดการการนำทางเมนูและการปรับการตั้งค่า และใกล้ๆ นี้ยังมีปุ่ม Q ซึ่งเปิดใช้เมนูบนหน้าจอแบบสัมผัส เช่นเดียวกับปุ่มแสดงผลและปุ่มย้อนกลับ/ลบที่อยู่รอบส่วนควบคุม

เซนเซอร์ภาพถ่าย 25MP

Lumix GH6 เป็นการเปิดตัวเซนเซอร์ภาพใหม่จาก Panasonic ซึ่งเป็น 25MP CMOS imager ที่ไม่มี Optical Low Pass Filter (OLPF) และมี Micro Four Thirds imager ที่ติดตั้งบนตัวกันสั่น 5 แกนเพื่อให้วิดีโอถือกล้องถ่ายวิดีโอราบรื่นยิ่งขึ้น, เปิดรับแสงนานโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และโหมดสุ่มตัวอย่างหลายช็อตความละเอียดสูง และยังให้ความเร็วในการอ่านที่มากกว่า 20MP ของ GH5 II ดังนั้นโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แบบเงียบจึงมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างมาก

เซนเซอร์ภาพถ่าย 25MP

Panasonic ไม่ได้ใช้ Stacked CMOS เพื่อให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลเร็วขึ้น แต่ใช้การประมวลผลที่น่าสนใจเพื่อให้ได้ภาพ ISO สูงที่ชัดเจนขึ้น เนื่องจากGH6 ใช้ประโยชน์จากระบบอัตราขยายคู่สำหรับภาพนิ่งและวิดีโอที่บันทึกที่ 60fps และอัตราเฟรมที่ต่ำกว่า ซึ่งระบบจะเริ่มทำงานอัตโนมัติในโหมดภาพนิ่ง แต่คุณต้องเปิดใช้งานผ่านเมนูเพื่อใช้ประโยชน์จากวิดีโอ ซึ่ง Panasonic เรียกว่า Dynamic Range Boost เมื่อคุณเปิดใช้งาน โดยให้ช่วงไดนามิกประมาณ 13 สต็อปใน V-Log แต่ใช้ความไวแสงสูง (ISO 2000) เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย แต่คุณอาจต้องใช้ฟิลเตอร์ ND ในแสงแดดจ้า แต่เมื่อปิด Dynamic Range Boost V-Log จะมี ISO 250 พื้นที่เหมาะสมกว่า

ในการทดสอบพบว่าGH6 ให้ JPG ที่สะอาดและคมชัดผ่าน ISO 1600 รายละเอียดที่ดีก้าวถอยหลังไปที่ ISO 3200 และoutput การตั้งค่า ISO สูงสุด 12800 และ 25600 จะแสดงผลคล้ายขี้ผึ้งของการลดสัญญาณรบกวนในกล้อง และพบว่าภาพ Raw ที่เราประมวลผลใน Adobe Lightroom Classic สามารถเก็บได้ดีขึ้น แต่มันมีจุดรบกวนอย่างแน่นอนที่การตั้งค่าที่สูงขึ้น แม้ว่าเราจะเห็นรูปแบบที่ใหญ่ขึ้นและหยาบกว่าการตั้งค่า ISO 25600 สูงสุด Lightroom ลดสัญญาณรบกวนสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ประสิทธิภาพของจุดรบกวนไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยด้านเดียวของคุณภาพของภาพเท่านั้น เนื่องจากช่างภาพที่ทำงานในรูปแบบ Raw มักจะใช้ความยืดหยุ่นมากมายเมื่อแก้ไขรูปภาพ ทำให้ GH6 ค่อนข้างน่าผิดหวังในเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ ISO ที่ต่ำกว่า หากคุณชอบใช้ความไวแสงต่ำ และชอบดึง contrast ต่ำโดยเพิ่มเงาให้สว่างขึ้น ดังนั้นกล้องนี้จึงไม่เหมาะสมกับคุณ เพราะการปรับแต่งระดับเงาหรือสีดำมากเกินไปทำให้เกิดจุดรบกวนมากเกินไป ซึ่งอาจมากกว่าที่คุณได้รับจากการเปิดรับแสงด้วยซ้ำ

fdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhakfdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhaddddk
download app
สแกนดาวน์โหลดApp