กล้อง compact ที่ดีที่สุดในปี 2566: กล้องคุณภาพสูงที่คุณสามารถถ่ายได้ทุกเมื่อ

loading

กล้อง compact ที่ดีที่สุดคือกล้อง ‘ตัวที่สอง’ ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเจ้าของกล้อง DSLR หรือ mirrorless ที่ต้องการเดินทางแบบเบาๆ เป็นครั้งคราว มันให้คุณสมบัติหรือคุณภาพของภาพเพียงเล็กน้อย แต่มีขนาดเล็กพอที่จะสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อได้ซึ่งทำให้สะดวกต่อการพกพาอย่างมาก

ในการคัดเลือกของเรานี้ เราได้เลือกกล้อง compact ที่มีเซนเซอร์ขนาดใหญ่พอสำหรับภาพคุณภาพสูง และการควบคุมแบบอัตโนมัติและแบบ manual ที่ผสมผสานกันซึ่งผู้ที่ชื่นชอบและผู้เชี่ยวชาญ และเราคุ้นเคยกับการใช้กล้อง DSLR หรือ กล้อง mirrorless ประเด็นสำคัญของกล้อง compact อยู่ที่เลนส์ที่มากับตัวกล้องและไม่สามารถเปลี่ยนได้ และคุณอาจคิดว่ากล้อง compact เหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ฉะนั้นมันจึงมีคุณสมบัติหลัก 2 ประการที่คุณต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ

1. เลนส์ซูม vs Prime: สำหรับกล้องคอมแพคคือเลนส์ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นเลนส์ที่มาพร้อมกับกล้องจะต้องทำงานทุกอย่างที่คุณต้องการให้กล้อง คุณอาจพอใจกับเลนส์ prime ทางยาวโฟกัสเดียว หรือคุณอาจชอบขอบเขตพิเศษของการซูมมากกว่าสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณาว่าโดยปกติคุณใช้งานอย่างไรหรือชอบแบบไหนมากกว่ากัน

2. ช่องมองภาพ: หากคุณพบว่าคุณใช้หน้าจอด้านหลังของกล้องเป็นส่วนใหญ่ คุณอาจไม่ต้องการช่องมองภาพ และสิ่งนี้ทำให้คุณมีขอบเขตมากขึ้นด้วยกล้อง อย่างไรก็ตาม ช่างภาพบางคนก็ยังติดการมองผ่านช่องมองภาพอยู่ดี

นี้คือ 2 สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกกล้อง compact ที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ เราจึงคิดว่ากล้องเหล่านี้เป็นกล้อง compact ที่ดีที่สุดที่คุณจะได้รับในตอนนี้ตามด้านล่างดังนี้

1. Fujifilm X100V

1. Fujifilm X100V

สเปกเบื้องต้น

เซนเซอร์: APS-C

ความละเอียด: 24.3MP

เลนส์: 23มม. f/2

หน้าจอ: แบบคงที่ขนาด 3 นิ้ว 1,620,000 dots

ช่องมองภาพ: Hybrid optical/EVF

การถ่ายภาพต่อเนื่อง: 11fps

ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K HUD

ระดับผู้ใช้งาน: ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อดี

+ ดีไซน์และการควบคุมที่สวยงาม

+ เลนส์ที่โฟกัสใกล้และคมชัดยิ่งขึ้น

+ ช่องมองภาพแบบ Hybrid optical / electronic

ข้อเสีย

– ราคาค่อนข้างแพง

– เลนส์ prime อย่างเดียวไม่มีการซูม

Fujifilm X100V มีสไตล์เหมือนกล้อง rangefinder แบบคลาสสิก และเป็นรุ่นล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากมันมีเลนส์ใหม่ที่คมชัดกว่ารุ่น X100 รุ่นก่อนหน้า เพื่อให้เซนเซอร์รุ่นล่าสุดมีความยุติธรรมอย่างเต็มที่ และหน้าจอสัมผัสแบบปรับเอียงได้ ที่ด้านหลังทำให้กล้องนี้ใช้งานได้ง่ายขึ้นมากในมุมที่ไม่สะดวก โดยไม่กระทบต่อการออกแบบที่เพรียวบาง นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติและวิดีโอ 4K ที่ได้รับการปรับปรุงทำให้การออกแบบกล้องคลาสสิกนี้ทันสมัยอีกด้วย

2. Sony ZV-1

2. Sony ZV-1

สเปกเบื้องต้น

ชนิด: Compact

เซนเซอร์: 1นิ้ว

ความละเอียด: 20.1MP

เลนส์: 24-70มม. f/1.8-2.8

หน้าจอ: แบบ vari-angle ขนาด 3 นิ้ว 921k dots

ช่องมองภาพ: Hybrid optical/EVF

พอร์ตสำหรับไมโครโฟน: ไม่มี

ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K

ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ

ข้อดี

+ ไมค์ด้านหน้าตัวกล้องที่แถมมาให้

+ ระบบ AF ที่รวดเร็วอย่างน่าประทับใจ

+ หน้าจอแบบ vari-angle

ข้อเสีย

– จอด้านหลังเล็กและไม่ใช่ 16:9

– ไม่มีช่องมองภาพ

Sony ZV-1 มุ้งกลุ่มเป้าหมายไปที่เหล่า vlogger เนื่องจากจุดเด่นของกล้องนี้คือส่วนควบคุม หน้าจอด้านหลัง และตัวกล้อง มีช่วงซูมยอดนิยมที่ 24-70 มม. พร้อมรูรับแสงแบบปรับได้ที่ f/1.8 – f/2.8 แต่ระยะโฟกัสต่ำสุดจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อคุณซูม ซึ่งสร้างความรำคาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้เพื่อบันทึกวิดีโอ และแม้มันจะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ active SteadyShot ไม่ได้ดีที่สุด แต่โฟกัสอัตโนมัตินั้นน่าประทับใจมาก

3. Panasonic Lumix LX100 II

3. Panasonic Lumix LX100 II

สเปกเบื้องต้น

ชนิด: Compact

เซนเซอร์: Micro Four Thirds

ความละเอียด: 17MP

เลนส์: 24-75มม. f/1.7-2.8 (เทียบเท่า)

หน้าจอ: คงที่ ขนาด 3 นิ้ว , 1,24 ล้าน dots

ช่องมองภาพ: EVF

การถ่ายภาพต่อเนื่อง: 11fps

ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K

ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อดี

+ กะทัดรัดด้วยเซนเซอร์ MFT เท่านั้น

+ เลนส์ซูมที่มีความไวถึง f/1.7-2.8

+ มีโหมดวิดีโอ 4K และโหมดภาพถ่าย 4K

ข้อเสีย

– ความละเอียด 17MP นี้ค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่งบางราย

กล้อง Panasonic Lumix LX100 II เป็นการรวมเซนเซอร์ Micro Four Thirds เข้ากับชุดเลนส์ขนาดเล็กที่จ่ายพลังงานเข้าไปในตัวกล้องที่บางพอที่จะพกพาไปได้ทุกที่ เนื่องจากมันมีเซนเซอร์ ‘multi-aspect’ 17MP ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้อัตราส่วนภาพ 4:3 ดั้งเดิม ซึ่งเป็นอัตราส่วน 3:2 ที่ใช้โดยกล้อง DSLR และรุ่น mirrorless ส่วนใหญ่ หรือรูปแบบ 16:9 ‘กว้าง’ โดยไม่สูญเสียเมกะพิกเซลจำนวนมากผ่านการครอบตัดไป

4. Canon PowerShot G5 X Mark II

4. Canon PowerShot G5 X Mark II

สเปกเบื้องต้น

ชนิด: Compact

เซนเซอร์: 1 นิ้ว

ความละเอียด: 20.1MP

เลนส์: 24-120มม. f/1.8-2.8 (เทียบเท่า)

หน้าจอ: หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว , 1.04 ล้าน dots

ช่องมองภาพ: EVF

การถ่ายภาพต่อเนื่อง: 30fps

ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K

ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อดี

+ เลนส์ซูม 5x f/1.8-2.8

+ วิดีโอ 4K

ข้อเสีย

– ช่องมองภาพแบบ pop-up ทำให้รู้สึกสับสนเล็กน้อย

Canon G5X Mark II มาพร้อมกับช่วงซูมที่ครอบคลุมถึง 24-120 มม. และมีค่ารูรับแสงที่ปรับได้ที่ f/1.8-/2.8 ซึ่งหมายความว่าว่าที่ระยะ telephoto ของช่วงซูม และคุณยังสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงและได้ระยะชัดลึกตื้นมากขึ้นอีกด้วย มันมีเซนเซอร์ 20MP ขนาด 1 นิ้วที่เล็กกว่า แต่ช่วงซูมที่ยาวขึ้นก็ยังถือว่าน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีวิดีโอ 4K, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงพิเศษที่ 30fps และหน้าจอสัมผัส LCD ที่ปรับเอียงได้

5. Canon PowerShot G1 X Mark III

5. Canon PowerShot G1 X Mark III

สเปกเบื้องต้น

ชนิด: Compact

เซนเซอร์: APS-C

ความละเอียด: 24.2MP

เลนส์: 24-72มม. f/2.8-5.6 (เทียบเท่า)

หน้าจอ: แบบ vari-angle ขนาด 3 นิ้ว , 1.04 ล้าน dots

ช่องมองภาพ: EVF

การถ่ายภาพต่อเนื่อง: 7fps

ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: Full HD

ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อดี

+ ขนาดกะทัดรัดมากสำหรับขนาดของเซนเซอร์

+ คุณภาพของภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม

+ ช่วงการซูม 3x ที่มีประโยชน์

ข้อเสีย

– ไม่มีวิดีโอ 4K

Canon G1 X Mark III อาจมีราคาค่อนข้างแพง แต่ก็เป็นกล้อง DSLR ในขนาดที่กะทัดรัด ซึ่งมีเซนเซอร์ APS-C 24 เมกะพิกเซลที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นเซนเซอร์เดียวกับที่คุณพบในกล้อง Canon EOS 80D DSLR เนื่องจากเลนส์มีช่วงโฟกัสอเนกประสงค์ที่ 24-72 มม. และหดกลับเข้าไปในกล้องเพื่อให้มีขนาดพกพาได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีรูรับแสงคงที่ ดังนั้นที่ 24 มม. คุณสามารถถ่ายภาพได้กว้างสุดที่ f/2.8 แต่ที่ 72 มม. รูรับแสงจะลดลงเหลือ f/5.6 ซึ่งไม่ค่อยดีนัก

fdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhakfdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhaddddk
download app
สแกนดาวน์โหลดApp