กลเม็ด 7 เคล็ดลับเลือกโซฟาให้สวย ลงตัวได้ ไม่ง้ออินทีเรีย

loading

โซฟานับเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักในห้องนั่งเล่น ด้วยรูปแบบและสไตล์ที่หลากหลายของโซฟา ทำให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้สามารถบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของคุณได้ ดังนั้นการเลือกโซฟาสักตัว จำเป็นต้องพิถีพิถัน เพื่อให้ได้โซฟาที่ใช่ วันนี้  **ขอนำเสนอวิธีการเลือกโซฟาแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้โซฟาที่สวยและเข้ากับห้องนั่งเล่นของคุณ แบบไม่ต้องง้ออินทีเรีย!
**

ก่อนที่เราจะไปรู้เคล็ดลับการเลือกโซฟาทั้ง 7 ข้อ ไปดูกันก่อนว่าโดยทั่วไปมีการใช้วัสดุอะไรสำหรับหุ้มโซฟา และโซฟาที่เราเห็นวางขายทั่วไปมีรูปแบบใดบ้าง

ทำความรู้จักกับวัสดุที่ใช้หุ้มโซฟา

วัสดุหุ้มโซฟานับเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโซฟา เนื่องจากเป็นสิ่งที่ให้สีสัน ความสวยงาม ความสบาย รวมถึงยังบ่งบอกตัวตนเจ้าของโซฟาได้ด้วย ซึ่งวัสดุที่ใช้มีหลัก ๆ 2 ชนิด คือ หนัง และผ้า

1. หนังที่ใช้หุ้มโซฟา

1.1 หนังสัตว์

ภาพ: โซฟาหนังแท้

โซฟาหนังสัตว์หรือส่วนใหญ่เรียกว่าโซฟาหนังแท้ เป็นวัสดุที่มีความทนทานสูงมาก แม้จะต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดและไม่ปล่อยให้โดนแดดโดยตรงนาน ๆ หากเป็นรอยเลอะให้น้ำผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดมาซับเบา ๆ หรือใช้น้ำยาสำหรับเครื่องหนังโดยเฉพาะ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน นับว่าคุ้มค่ากับลงทุน อีกทั้งยังมีสัมผัสที่นุ่ม สบาย ยิ่งใช้งานไปก็จะยิ่งนิ่มและสบายมากขึ้น แต่โซฟาหนังประเภทนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง

1.2 หนังเทียม

ภาพ: โซฟาหนังเทียม

โซฟาหนังเทียมมีข้อดีที่เด่นชัดอย่างแรก คือ ราคาไม่สูงเท่าโซฟาหนังแท้ และมีสีสันที่สดใสให้เลือกหลากหลาย รวมถึงยังทำความสะอาดได้ง่าย โดยที่โซฟาประเภทนี้จะมีอายุการใช้งานไม่นานเท่าโซฟาประเภทอื่น ๆ 

2. ผ้าที่ใช้หุ้มโซฟา

2.1 ผ้าใยธรรมชาติ

ภาพ: โซฟาผ้าใยธรรมชาติ

จุดเด่นที่สุดของโซฟาผ้าใยธรรมชาติ คือ ให้สัมผัสที่อ่อนโยน นุ่มนวล ไม่กักความร้อนไว้ภายใน ทำให้รู้สึกสบายไม่อับชื้น อีกทั้งยังเหมาะกับการแต่งบ้านในสไตล์เรียบง่าย ให้เข้ากับธรรมชาติ แต่ข้อควรระวัง คือ เป็นวัสดุที่เก็บฝุ่นไว้เยอะมาก ต้องหมั่นทำความสะอาดและดูแลให้ดี

2.2 ผ้าใยสังเคราะห์

ภาพ: โซฟาผ้าใยสังเคราะห์

โซฟาผ้าใยสังเคราะห์มีลักษณะที่คล้ายกับใยธรรมชาติ แม้ผิวสัมผัสไม่นุ่มนวลเท่า แต่ข้อดี คือสามารถออกแบบลวดลาย และสีสันให้สดใสสวยงามได้มากกว่า รวมทั้งมีคุณสมบัติที่ช่วยให้เนื้อผ้าคงตัว ยับยาก ซึ่งส่งผลให้ดูแลโซฟาง่ายขึ้น

นอกจากวัสดุหุ้มโซฟาแล้ว ขอพาไปรู้จักกับรูปแบบของโซฟาในสไตล์ต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันไป เพื่อให้คุณค้นหาโซฟาที่ใช่มากที่สุด!

รูปแบบของโซฟา

1. Tuxedo

ภาพ: โซฟาสไตล์ Tuxedo

สไตล์ Tuxedo เป็นโซฟาทรงเหลี่ยม ลักษณะคล้ายกล่องที่ส่วนแขนและพนักพิงสูงเท่ากัน ด้วยรูปทรงเรขาคณิตแบบนี้ ทำให้เป็นโซฟาดีไซน์เก๋ เท่ โฉบเฉี่ยว การเลือกโซฟาทักซิโด้สามารถนำไปแต่งให้เข้ากับห้องนั่งเล่นหลายสไตล์

2. Chesterfield

ภาพ: โซฟาสไตล์ Chesterfield

สไตล์ Chesterfield เป็นโซฟาที่มีลักษณะเป็นกล่องคล้ายแบบ Tuxedo แต่ให้ความหรูหรากว่ามาก เนื่องจากมีจุดเด่น คือ ความโค้งมนบริเวณขอบที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล อีกทั้งยังมีการเย็บกระดุมลึกด้านใน ทำให้มีลวดลายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในสไตล์แบบลักชัวรี่

3. Camelback

ภาพ: โซฟาสไตล์ Camelback

สไตล์ Camelback เป็นอีกหนึ่งสไตล์ของโซฟาหรูหรา รูปทรงส่วนพนักพิง มีลักษณะคล้ายโหนกหลังอูฐ เป็นดีไซน์คลาสิกที่มีความสวยงามในทุกยุคทุกสมัย เหมาะกับการแต่งบ้านสไตล์วินเทจ ย้อนยุค ยิ่งเป็นโซฟาตัวใหญ่จะยิ่งให้ความโอ่อ่ามากขึ้น

4. Cabriole

ภาพ: โซฟาสไตล์ Cabriole

สไตล์ Cabriole เป็นโซฟาสายหวาน ลักษณะเด่นที่สุด คือ ขาของโซฟามีลักษณะโค้งปลายคล้ายกับการเต้นบัลเล่ต์ ทำให้ดูอ่อนช้อย นุ่มนวลมาก นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์ที่ส่วนแขนและพนักพิงมีความโค้งมน ยาวต่อเป็นแผ่นเดียวกัน เหมือนกำลังโอบอุ้มผู้ที่นั่งอยู่ด้วย 

5. Lawson

ภาพ: โซฟาสไตล์ Lawson

สไตล์ Lawson เป็นโซฟาร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่วนแขนของโซฟาจะอยู่ต่ำกว่าพนักพิงด้านหลัง และโดดเด่นด้วยลักษณะที่เรียบง่าย ตัดทอนลวดลายของโซฟาสไตล์อื่น ๆ ออกไป เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย นำไปใช้แต่งบ้านได้เข้ากับทุกแนว

6. Sectional

ภาพ: โซฟาสไตล์ Sectional

สไตล์ Sectional เป็นเหมือนกับโซฟาอเนกประสงค์ที่เหมาะกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ หรือบ้านที่มีสมาชิกหลายคน เนื่องจากโซฟาสไตล์นี้มีหลายรูปแบบที่ได้รับความนิยม อย่างโซฟารูปตัวแอล (L) ที่มักวางในบริเวณมุมห้องด้านในด้านหนึ่ง หรือโซฟารูปครึ่งวงกลมที่มีดีไซน์สวยแปลกตา และโซฟารูปตัวยู (U) ที่มักตั้งติดกับผนัง ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดกับคนในครอบครัว

เมื่อรู้จักกับวัสดุหุ้มและรูปแบบต่าง ๆ ของโซฟาแล้ว คราวนี้เราก็ไปดูกันต่อเลยว่า มีกลเม็ดเคล็ดลับอะไร ที่ช่วยให้การเลือกโซฟาเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ!

7 เคล็ดลับการเลือกโซฟาง่าย ๆ แบบไม่ง้ออินทีเรีย

1. ขนาดพอดีกับห้อง

ภาพ: โซฟาหนังรูปตัวแอล (L) ในห้องขนาดใหญ่

เรื่องแรกที่สำคัญในการเลือกโซฟาสักตัว คือ ขนาดโซฟาต้องเหมาะสมกับขนาดห้องนั่งเล่น ควรวัดทั้งพื้นที่ระหว่างประตู พื้นที่ทางเดิน หรือขนาดจอทีวี เพื่อให้ได้โซฟานั้นเข้ากับทุกอย่างมากที่สุด เพราะหากเราเลือกโซฟาที่สวย แต่วัดไม่ได้ขนาดแล้ว เราก็อาจไม่ได้โซฟาที่ฟิตลงตัวกับทุกมุมห้อง หากห้องมีขนาดใหญ่การเลือกซื้อโซฟาขนาดใหญ่ สามารถช่วยเติมเต็มพื้นที่ไม่ให้ห้องโล่งเกินไป เช่นเดียวกันถ้าห้องขนาดเล็กโซฟาประมาณ 2 ที่นั่งก็จะช่วยให้ห้องไม่แคบและอึดอัดได้

2. ตำแหน่งที่วาง

ภาพ: การจัดวางโซฟาในตำแหน่งที่เว้นพื้นที่ให้เดินได้สะดวก

เมื่อได้ขนาดของโซฟาที่พอดีกับห้องนั่งเล่นของคุณแล้ว สิ่งต่อไป คือ ต้องพิจารณาตำแหน่งที่วาง ซึ่งควรดูควบคู่ไปกับแปลนห้องด้วย เช่น ทางขึ้นบันได ระยะการเปิด – ปิดประตูและหน้าต่าง พื้นที่วางโต๊ะกลางหรือโต๊ะข้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้พื้นที่เผื่อสำหรับทางเดินได้สะดวก โดยควรเว้นระยะบริเวณรอบ ๆ โซฟา ประมาณ 30 นิ้ว 

3. โครงโซฟาแข็งแรง

ภาพ: โซฟาไม้โอ๊คที่มีโครงสร้างแข็งแรง

หนึ่งในวิธีเลือกโซฟาที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น คือการเลือกโซฟาที่มีโครงสร้างทนทาน ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นไม้เนื้อแข็งหรือเหล็ก เนื่องจากมีความคงทน รับน้ำหนักได้เยอะ ช่วยให้โซฟาไม่โยกเยก

ภาพ: โซฟาที่โครงไม่แข็งแรง

หากใช้เป็นไม้เนื้ออ่อนหรือแผ่นพาร์ติเคิลบอร์ดอาจไม่ตอบโจทย์นัก เนื่องจากเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง ตัวโครงอาจเสื่อมสภาพไป และทำให้โซฟาชำรุดได้ง่าย นอกจากนี้ควรมีการเลือกโซฟาที่โครงถูกปิดบังหรือหุ้มเป็นอย่างดี ไม่ยื่นออกมา เพราะอาจทำให้เดินชน หรือนั่งแล้วเท้าไปโดน ซึ่งจะไม่สะดวกสบายเลย

4. ความสบายในการนั่ง

ภาพ: โซฟาที่มีสัมผัสนุ่มนั่งสบาย

ภาพ: โซฟาสัมผัสนุ่มสบาย

โซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับการนั่งพักผ่อน เพื่อให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า หรือให้สัมผัสที่ดีกับผู้นั่ง โดยสิ่งที่เป็นตัวกำหนดความสบาย คือวัสดุที่บรรจุอยู่ภายในเบาะ ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ขนสัตว์มีความนุ่มมาก แต่อาจไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ เนื่องจากความนุ่มที่ทำให้ลุกนั่งได้ลำบาก ต่างจากเส้นใยไฟเบอร์ที่มีลักษณะที่แน่นฟู ทำให้ไม่ยวบลงไปทั้งหมด อีกทั้งยังระบายความร้อนได้ดี ไม่กักเก็บฝุ่นด้วย

ภาพ: วัสดุเบาะภายในโซฟา

นอกจากนี้ยังมีวัสดุอีกหลายอย่าง เช่น โฟมขึ้นรูปที่หนาแน่น ทนทาน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบสัมผัสที่นิ่มจนเกินไป หรือ Memory Foam ที่โอบรับทุกสรีระของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ช่วยให้นั่งได้อย่างสบายไม่ปวดเมื่อย

5. วัสดุหุ้มเหมาะกับไลฟ์สไตล์

ภาพ: รอยเลอะสีเมจิกบนโซฟาผ้า

การเลือกโซฟาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์นั้น ดูได้จากหลายปัจจัย เช่น สมาชิกในบ้าน หากบ้านของคุณมีเด็กเล็กโซฟาหนังเทียมอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากหนังเทียมไม่ดูดน้ำที่อาจมาจากอาหาร ขนม หรือของเล่น เพราะหากเป็นโซฟาผ้าเมื่อเลอะน้ำแล้วอาจซึมเข้าไปจนทำความสะอาดได้ยาก

ภาพ: รอยขีดข่วนจากสัตว์บนโซฟาหนัง

หรือถ้าบ้านคุณเลี้ยงสัตว์ที่มีนิสัยชอบข่วนล่ะก็ โซฟาหนังคงจะไม่ตอบโจทย์แน่ เนื่องจากเป็นรอยได้ง่ายและเห็นชัดมาก การเลือกโซฟาผ้าอาจช่วยพรางรอยเหล่านั้นได้ดีกว่า แต่โซฟาผ้าเองก็อาจไม่เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ เนื่องจากผ้ามักเป็นที่สะสมของไรฝุ่นหรือสิ่งสกปรกนั่นเอง

6. วิธีการดูแลรักษา

ภาพ: การทำความสะอาดโซฟาหนัง

อีกหนึ่งปัจจัยที่สัมพันธ์กับไลฟ์สไตล์ของคุณ คือ วิธีการรักษาโซฟา เนื่องจากโซฟาแต่ละชนิดมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป 

  • โซฟาผ้าจำเป็นต้องทำความสะอาด ดูดฝุ่นเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เป็นที่กักเก็บเชื้อโรค

  • โซฟาหนังควรขัดหรือเช็ดน้ำยาเฉพาะ ซึ่งช่วยรักษาให้หนังมันเงา วาววับได้นานขึ้น

7. ความเข้ากันกับการตกแต่ง

ภาพ: โซฟาในห้องนั่งเล่นสไตล์เรียบง่าย

เรื่องสุดท้ายในการเลือกโซฟา คือ ควรเลือกให้เข้ากันกับสไตล์ของห้องนั่งเล่น ซึ่งต้องดูองค์ประกอบทั้งสไตล์การตกแต่งที่ใช้เป็นธีมหลัก เฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น สีของห้อง หรือของตกแต่งต่าง ๆ หากคุณมีห้องนั่งเล่นสีชมพูในสไตล์มินิมอลที่ติดตั้งผ้าม่านสีชมพูเข้มแล้ว การเลือกโซฟาสไตล์วินเทจ หรือโซฟาสีชมพูอีกคงจะไม่เข้ากับห้องแน่ เลือกเป็นโซฟาโมเดิร์นสีขาวจะเข้ากว่า และยังช่วยให้โซฟาเด่นขึ้นมากด้วย

fdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhakfdhjkfajksfksadfjkldasjfksaljklfjdalkfjksjhafjkdsahfjkhsadkfhaddddk
download app
สแกนดาวน์โหลดApp