รีวิว “SONOS Era 100” ลำโพงไร้สายสัญญาณ Wi-Fi เสียงกลมกล่อม แยกห้องได้สบาย
SONOS หรือชื่อไทยคือ โซนอส ถือว่าเป็น Gadget ที่ดังในต่างประเทศในฐานะลำโพงไร้สายที่ไม่ได้ปล่อย Bluetooth เท่านั้น แต่สามารถรับสัญญาณ Wi-Fi และปล่อยเป็นเสียง จริงๆ ออกมากลุ่มแรก 2 รุ่นทั้งตัวเล็กและรอบนี้เรามาดูกับตัวใหญ่กันว่าเป็นอย่าไงกับรุ่น Era 100
คุณสมบัติของ SONOS Era 100
-
ขนาด : 12.0 x 13.05 x 18.25 เซนติเมตร
-
น้ำหนัก 2.02 กิโลกรัม
-
จำนวนลำโพง : 2 Tweeter, 1 Woofer
-
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi Dual Band, Bluetooth
-
ฟีเจอร์พิเศษ : AirPlay, Spotify Connect, Party Mode, Multi-Room, มีโหมดเสียงต่างๆ, Stereo mode
-
แบตเตอรี่ : ไม่มี
-
ราคา : 12,900 บาท
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ SONOS Era 100
สำหรับหน้าตาของ SONOS Era 100 จะมาพร้อมกับทรงกระบอกแต่ไม่ได้กลมเท่าไหร่ แต่ออกแบบให้มีส่วนโค้งและตรงที่ดูดีเลยครับ ด้านหน้าจะมีโลโก้ SONOS แนวตั้ง พร้อมกับไฟบอกสถานะของของลำโพงเช่นเดียวกันครับ
แต่ลำโพงตัวเครื่องมีทั้งหมด 2 ลำโพงเป็นแบบทวีตเตอร์ 2 ตัว และมี Sub-Woofer ให้ทั้งหมด 1 ตัวและมีขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับเสียงที่เป็นแบบ สเตอริโอเต็มๆ เช่นเดียวกัน
ด้านหลังของลำโพงจะมีปุ่ม Bluetooth คือเราสามารถกดต่อเชื่อมกับมือถือของเราตามปกติได้เช่นเดียวกัน, เลื่อนลงไปด้านล่างจะมาพร้อมกับปุ่ม ปิด / เปิด ลำโพง และ ช่องเสียบ USB-C เพื่อจะเสียบให้เสียงในรูปแบบ Line-in ต่อออกไปได้
พลิกด้านล่างมีช่องเสียบปลั๊กไฟ เพราะเนื่องจากลำโพงรุ่นนี้เป็นแบบเสียบปลั๊ก
และด้านบนเป็นส่วนความคุม โดยสามารถกดสั่งงานด้วยเสียง, ควบคุมการเล่นเพลง และ ปรับระดับเสียง พร้อมกับไมโครโฟนในตัวเครื่อง
ฟีเจอร์ภายในของ SONOS Era 100
การทำงานของลำโพง SONOS ซึ่งจุดเด่นของลำโพงรุ่นนี้คือ การทำงานแบบ Multi ROOM เพราะคุณสามารถมีลำโพงแบบนี้ไว้ที่บ้านหลายๆ ตัว และสามารถตั้งว่าให้อยู่ที่ห้องไหนก็ได้ในบ้าน โดยมีทั้งแบบไร้สาย ในรูปแบบ Wi-Fi เพราะตัวนี้จะเชื่อมต่อได้ทั้งหมด แบบ Wi-Fi 5GHz และ 2.4GHz ทั้งนี้ขอแนะนำให้ต่อ Wi-Fi รุ่นนี้ที่ 2.4GHz ดีกว่า เนื่องจากเกิดความเสถียรมากกว่า
ใน App SONOS นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตั้งค่าเท่านั้นแต่ยังทำงานอื่นได้ดังนี้
-
สามารถตั้งค่าว่าตั้งค่าอยู่ที่ห้องอะไรได้ทั้งหมด
-
ตั้งเวลาปลุก
-
เลือกบันทึกเพลงโปรด
-
เลือกปรับได้ว่าให้เสียงแต่ละห้องมีระดับที่แตกต่างกันได้ หรือเพลงที่แตกต่างกันแต่ละห้อง (เปิดได้พร้อมกัน 8 ตัว)
-
รองรับฟีเจอร์ AirPlay ของ Apple
-
เลือกฟังเพลงจากแหล่งออนไลน์ เช่น Spotify, SONOS Radio, YouTube Music, Tidal และ Line IN (เช่นเครื่องเล่นแผ่นเสียง หรือวิทยุบางรุ่นที่มีพอร์ต 3.5mm. To USB-C เป็นต้น
-
สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Amazon Alexa
-
และสามารถใช้งานกับ ผู้คนภายในบ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องต้องใช้ Login เดียวกัน แค่คนหลักส่ง Invite ให้ก็พอ
อ้อที่สำคัญ SONOS มีลำโพง หลากหลายรุ่นทั้ง Era 100, Era 300 และ ROAM แบบพกพา และมีที่จับมือกับ IKEA สามารถต่อเชื่อมผ่าน Application เดียวกันครับ
คุณภาพเสียงเป็นอย่างไร
จากที่ได้ทดลองใช้งานของคุณภาพเสียงเช่นเดียวกันทั้ง SONOS Era 100 จะมีลำโพงที่มาแบบจัดเต็ม โดยให้ลำโพง Sub-Woofer ใหญ่กว่าเดิม 25% และทวีตเตอร์ให้แบบครบอยู่ ให้เสียงที่ทรงพลังอยู่ เบสจะอิ่มมากขึ้น แต่อาจจะยังไม่สามารถเทียบได้กับลำโพงที่ขนาดใหญ่หรือเป็นการรองรับแบบ Lossless ทั้งไร้สายและเสียบสาย แต่ยังเพราะกว่าลำโพงหลายๆ รุ่น
เพราะลำโพง Wi-Fi รุ่นนี้ออกแบบเพื่อให้คุณต่อเชื่อมความบันเทิงด้วยเสียงเพลงแบบไม่มีอะไรขัดจังหวะ ต่อให้มือถือของคุณมีสายหรือจำเป็นต้องโทร คุณสามารถสั่งให้ลำโพงไปดังห้องอื่นได้หากที่บ้านคุณต้องการฟังอยู่
สรุปหลังทดลองใช้งาน SONOS Era 100 จากทีม Sanook Hitech สักระยะเวลาหนึ่ง
เรียกว่าลำโพง SONOS Era 100 ถือว่าเป็นลำโพงไร้สายแบบ Wi-Fi ที่เน้นคุณภาพเสียงที่เรียกว่าเปิดสัก 30 ก็ดังกำลังดี แต่ คุณสามารถใช้งานได้หลากหลายภายในบ้าน ปลอดภัย ให้เสียงที่คมชัด จัดการได้หลากหลายห้อง รวมถึงยังสามารถให้คนในบ้านควบคุมได้เช่นเดียวกัน
แต่ว่าถ้าจะยกไปในบริเวณที่ไม่มี Wi-Fi ก็ยังสามารถต่อเชื่อมกับ Bluetooth ได้แต่คุณภาพเสียงอาจจะไม่ได้เท่ากันเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็สามารถใช้ทดแทนได้
สำหรับ Sonos Era 100 จะมีราคาอยู่ที่ 12,900 บาท โดยตอนนี้สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้
จุดเด่น
-
ลำโพงขนาดใหญ่ให้เสียงดี
-
ต่อเชื่อมผ่าน Wi-Fi สะดวกและไม่กวนมือถือ
-
การสั่งงานด้วยเสียงทำได้ดี
-
เชื่อมต่อกับลำโพงอื่นๆ ของยี่ห้อนี้
-
ควบคุมลำโพงได้หลากหลายจุดในบ้าน
ข้อสังเกต
-
การต่อเชื่อม Bluetooth ให้คุณภาพอาจจะไม่ดีเท่า Wi-Fi
-
ยังไม่รองรับ Google Assistant